.
หลายประเทศเสนอเป็นตัวกลางช่วยไกล่เกลี่ยปัญหาระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น ขณะที่รัฐมนตรีกลาโหมของรัสเซียเดินทางไปตรวจเยี่ยมทหารที่ประจำการอยู่ตามแนวชายแดนติดกับยูเครน ก่อนที่การซ้อมรบร่วมระหว่างรัสเซียกับเบลารุสจะเปิดฉากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณว่าสงครามยังอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
.
ประธานาธิบดี เรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ซึ่งอยู่ระหว่างเยือนกรุงเคียฟของยูเครน เสนอตัวจัดการเจรจาระหว่างรัสเซียกับยูเครน เพื่อคลี่คลายความตึงเครียด ขณะที่ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เตรียมต่อสายหารือกับประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เป็นครั้งที่ 4 ในรอบสัปดาห์ ส่วน โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี มีแผนจะเดินทางไปมอสโกเพื่อช่วยคลี่คลายข้อพิพาทเช่นกัน
.
ด้านรัฐบาลรัสเซียยืนยันว่า มีความเป็นไปได้ที่โชลซ์และมาครงจะเดินทางเยือนมอสโกพร้อมกัน โดยเป็นการแสดงสัญลักษณ์ความสามัคคีของยุโรป ขณะที่สองประเทศเป็นผู้ร่วมลงนามข้อตกลงมินสก์ ซึ่งเป็นข้อตกลงปี 2015 ที่ออกแบบมาเพื่อนำสันติภาพและเอกราชมาสู่ดินแดนยูเครนตะวันออกที่อยู่ภายใต้การสนับสนุนของรัสเซีย
.
ความพยายามในการช่วยไกล่เกลี่ยทางการทูตมีขึ้นหลังรัสเซียกล่าวหาสหรัฐฯ ว่าเป็นผู้ที่ทำให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้น จากการส่งทหาร 1,000 และ 2,000 นายไปโรมาเนียและโปแลนด์ เพื่อสนับสนุนกองกำลังขององค์การ NATO ขณะที่รัสเซียปฏิเสธที่จะถอนทหารกว่า 1 แสนนายออกจากบริเวณชายแดนยูเครน โดยอ้างว่า NATO ยังไม่ตอบสนองข้อเรียกร้องด้านความมั่นคงของรัสเซียในการเลิกสนับสนุนยูเครน
.