9 ก.พ.2565- นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความผ่านทวิตเตอร์ Piyabutr Saengkanokkul @Piyabutr_FWP มีเนื้อหาดังนี้
คนที่เชียร์ต่างพรรค มีประเด็นที่ต้องการร่วมกันมากมาย เช่น ปฏิรูปกองทัพ ปฏิรูปศาล สวัสดิการ ลดความเหลื่อมล้ำ ทลายทุนผูกขาด การกระจายอำนาจให้ท้องถิ่น แต่พอคิดเรื่องเชียร์คนละพรรค ก็ไม่อาจแสวงหาฉันทามติได้ เกิดเป็นความขัดแย้งในหมู่ประชาชนจนชนชั้นนำฉวยโกยผลประโยชน์ไปหมด
พรรคอนาคตใหม่ต้องการหลอมรวม “ประชาชน”ขึ้นใหม่เพื่อไปสู้กับ “ชนชั้นนำ” และทวงเอาประโยชน์ ทรัพยากร อำนาจ กลับมาไว้ที่ประชาชนคนส่วนใหญ่เจ้าของประเทศ ดังนั้น เราจึงเปิดรับทุกฝ่ายที่มีแนวคิดอุดมการณ์เดียวกันในภาพใหญ่ และมีเงื่อนไขขั้นต่ำต้องยึดมั่นคุณค่าพื้นฐานของพรรค
แน่นอน มีข้อผิดพลาด มี “งูเห่า” มีคนที่ละทิ้งเราไปอยู่ที่อื่น แต่ภาพใหญ่ ผมคิดว่าพรรคอนาคตใหม่ปฏิบัติภารกิจเปลี่ยนความคิดจิตใจคนได้อย่างมีนัยสำคัญ ดึงคนจากหลากหลายฝ่ายเข้ามาร่วมต่อสู้ในประเด็นใหญ่เชิงโครงสร้่างด้วยกัน และแสวงหาคะแนนเสียงเพิ่มออกไปจาก “วง” เดิม
การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองขนานใหญ่จำต้องอาศัยคนที่เห็นด้วยกันจำนวนมาก การรณรงค์ทางการเมือง คือ การเปลี่ยนความคิดจิตใจคนให้คนมาร่วมกับเราเพิ่มข้ึน เรื่องกระจายอำนาจ คือ การปฏิรูปโครงสร้างรัฐและระบบราชการขนานใหญ่ เรื่องใหญ่แบบนี้ต้องอาศัยคนจำนวนมากเพื่อสร้างฉันทามติ
ด้วยเหตุนี้ ผมจึงยินดีเป็นอย่างยิ่งที่คุณถวิล ตอบรับมาร่วมรณรงค์การกระจายอำนาจกับคณะก้าวหน้า นอกจากนี้ ยังสมัครเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลตลอดชีพ โดยไม่ขอลง สส แต่ขอทำงานเรื่องการกระจายอำนาจให้กับพรรคเพื่อผลักดันเป็นนโยบายต่อไป
ภารกิจขององค์กรทางการเมืองที่พวกเราเริ่มก่อตั้งขึ้นจากอนาคตใหม่มาก้าวหน้า/ก้าวไกล ยังคงต้องเดินหน้าหลอมรวมประชาชนขึ้นสู้กับกลุ่มคนไม่กี่คนที่กอบโกยประโยชน์และอำนาจ เพื่อเปลี่ยนโครงสร้างอันอยุติธรรมเสียใหม่
การหลอมรวมคนหลายฝ่ายในนามประชาชนคนส่วนใหญ่เพื่อสู้กับคน 1% ย่อมดีกว่า การเลี้ยงไข้รักษาความขัดแย้งในหมู่ประชาชนที่สนับสนุนต่างพรรคไว้ แต่ปล่อยให้ชนชั้นนำนักการเมืองได้เข้าไปแบ่งสันปันส่วนประโยชน์กับพวก 1%
เมื่อครั้งก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ผมเดินสายคุยกับนักวิชาการเรื่องกระจายอำนาจหลายคน เพื่อนำมาออกแบบนโยบาย ท่านหนึ่งบอกผมว่า หาพรรคและนักการเมืองที่จริงจังและสนใจเรื่องกระจายอำนาจได้น้อย ต้องยกชื่อเป็นคนๆ เขายกมา 3 ชื่อ ได้แก่ จาตุรนต์ ฉายแสง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถวิล ไพรสณฑ์
จะปฏิรูปสถาบันกษัตริย์/ศาล/กองทัพ กระจายอำนาจ ทลายทุนผูกขาด สร้างสวัสดิการ กระจายที่ดิน ได้อย่างไร หากไม่มี “แนวร่วม” จากประชาชนทุกฝักฝ่าย การคงความขัดแย้ง เอ็งพวกข้า เอ็งไม่ใช่ โดยสร้าง “ดัชนีชี้วัด” กันขึ้นมา แล้วก็ตัดสินคนอื่นๆ ไม่อาจช่วยให้เราเปลี่ยนแปลงโครงสร้างได้
ผมเชื่อและทำการเมืองแนวนี้ – หลอมรวมประชาชนสู้กับชนชั้นนำ 1% เพื่อเอาอำนาจ ทรัพยากรกลับมาไว้ที่ประชาชนคนส่วนใหญ่ มิใช่เลี้ยงความขัดแย้งในหมู่ประชาชนที่เชียร์คนละพรรค ขัดแย้งกันอยู่ในประเด็นว่าเอ็งพวกใคร แล้วปล่อยให้นักการเมืองชนชั้นนำแย่งกันเข้าไปแบ่งปันประโยชน์กับพวก 1%
มันทำได้แต่เพียงเลี้ยงความขัดแย้งในหมู่ประชาชนไป แล้วสุดท้ายพวก 1% ก็ยังเสวยสุขแบบเดิม และ political elite แบบเดิมๆก็เข้าไปแบ่งชิ้นเนื้อจากพวกเขา