วันนี้ (18 ก.พ. 65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติเมื่อวานนี้ ที่ถูกเปรียบเป็นการทำสงครามที่กรุงลงกา ระหว่างพระรามและทศกัณฐ์ ว่า ทุกฝ่ายต้องการลดความตึงเครียด เพราะหากจะต่อสู้รบราฆ่าฟันกัน ไม่มาเปรียบเทียบแบบนี้ ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ตามบทบาทตัวเอง เป็นผู้นำฝ่ายค้านจะมาเชียร์รัฐบาลก็เป็นไปไม่ได้ รัฐบาลจะหาว่า หาเรื่องกลั่นแกล้งก็ไม่ได้ มีที่ให้ฟังคือที่ สภาฯ เป็นที่ที่ผู้บริหาร รัฐบาลต้องรับฟังไม่ว่า การอภิปรายของฝ่ายค้านจะดุเด็ดเผ็ดมัน รุนแรงหรือถูกวิพากษ์วิจารณ์ขนาดไหนเรามีหน้าที่ฟังเสียงผู้แทนของประชาชนเราไม่ได้ฟังตัวเขา เราต้องฟังเสียงผู้แทนของเขา เพราะเขามาจากประชาชน เราไม่มีทางเลือก
ซึ่งเมื่อฟังการอภิปรายแล้วเห็นว่าทุกฝ่ายอยู่ในเกม เพราะบางครั้งการรับฟังข้อมูลของแต่ละฝ่ายถ่ายทอดมา อาจจะไม่จริงว่าพูดโกหกแต่เพราะได้รับข้อมูลมาแบบนั้น ซึ่งคนที่มีข้อมูลคือส่วนราชการ ซึ่งฝ่ายการเมือง ก็นำข้อมูลเหล่านั้นมาแก้ต่าง ทั้งในส่วนวิชาการ ข้อเท็จจริง ส่วนใดที่เป็นเรื่องนโยบาย เรื่องของการตัดสินใจของรัฐมนตรี รัฐมนตรีก็ต้องชี้แจงเอง ถ้าทำแบบนี้ได้ ทุกคนอยู่ในเกมก็จะไม่มีปัญหา
ส่วนที่ฝ่ายค้านบอกว่าเป็นการซ้อมใหญ่ ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอนุทิน ระบุว่าของจริงเกิดขึ้นตั้งแต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรกแล้ว ฝ่ายค้านไม่มีของปลอม ของจริงทั้งนั้นแต่ละดอก โชคดีที่ไม่ถูกนับ 8 ยืนยันไม่ได้กลัวการอภิปรายแบบดุดัน เราต้องให้ความเคารพการอภิปรายของฝ่ายค้าน เพราะเป็นตัวแทนของประชาชน ซึ่งถูกเสมอ สำคัญที่สุด ประชาชนคือเสียงสวรรค์ เราต้องรับฟังและรีบชี้แจง ตรงไหนไม่ใช่ข้อเท็จจริงก็เอาข้อเท็จจริงมายัน แต่ถ้าทำอะไรไม่เข้าท่า ทำเฮงซวย มาก่อน ก็ช่วยไม่ได้ ต้องรับผิดชอบไปตามบริบท ของการกระทำนั้น
นายอนุทิน ไม่ตอบการนับแปดเป็นเพราะสถานการณ์รัฐบาลนั้น เฉียดฉิวหรือไม่ แต่บอกว่า งานที่ตนเองรับผิดชอบคือ การแก้ไขโควิด-19 อะไรที่โลกเขาทำประเทศไทยทำก่อน ซึ่งทำด้วยเจตนาบริสุทธิ์ ทุ่มเท เสียสละ ทั้งแพทย์พยาบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการอภิปรายว่า เวชภัณฑ์ไม่พอ และเอาวัคซีนไปเททิ้ง เป็นข้อมูลเท็จซึ่งต้องไปขี้แจงแต่ไม่เป็นไร ผู้อภิปรายเป็นตัวแทนของประชาชน ก็อาจจะได้ข้อมูลเท็จมา ดูก็รู้เพราะยืนอ่านเสียงตะกุกตะกัก ก็รู้ เราก็จะชี้แจง และไม่ถือโทษโกรธ ตรงกันข้ามทุกคนได้ฉีดวัคซีนหมด และนำวัคซีนที่มีประสิทธิภาพมา
นายอนุทิน ไม่ห่วงการอภิปรายปม โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีที่รับผิดชอบพร้อมชี้แจงอยู่แล้ว และไม่ห่วงข้อมูลจะคลาดเคลื่อนเพราะรัฐบาล และข้อมูลที่รัฐมนตรีนำมาใช้มาจากหน่วยงานที่กำกับดูแลจึงเป็นข้อมูลที่เป็นความจริง ชี้แจงประชาชนด้วยหลักฐาน พร้อมย้ำว่า รัฐบาลจะไม่ล้มเพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ถ้ารัฐบาลจะไป เป็นเพราะปัญหาภายในทั้งนั้น ไม่มีภายนอก
ดังนั้นเราต้องสามัคคี เข้าใจกันและให้เกียรติกันให้มาก ส่วนรัฐบาลนี้ จะไปเพราะปัญหาภายในหรือไม่ ก็บอกแล้วว่าจะขึ้นกับปัจจัยเหล่านี้ ถ้าเราให้เกียรติ เคารพ ซึ่งกันและกัน ก็จะทำให้ทำงานมีประสิทธิภาพ และจะครบวาระโดยธรรมชาติ ขณะนี้ เข้าเดือน 3 แล้ว เดี๋ยวปลายปีจะมีงานใหญ่ การประชุมเอเปค ที่ต้อนรับผู้นำให้สมศักดิ์ศรี มั่นใจในประเทศไทย ขณะที่การนับถอยหลังเลือกตั้ง นับมาตั้งแต่ปี 2562 แล้ว ซึ่งการจะยุบสภาหรือไม่ ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี แต่ส่วนตัวเห็นว่าอยู่ได้