วันนี้ (24 ก.พ. 65) นายประสพโชค นิ่มเรือง อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางสมบูรณ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังนายภูริวัฒ นิ่มเรือง (กุมารดำ) น้องชายเข้ามอบตัวว่า สิ่งที่กังวลที่สุดคือครอบครัว เพราะเริ่มมีบุคคลแปลกหน้าเข้ามาวนเวียนบริเวณที่พักอาศัย และไม่ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากที่ใด จนถึงตอนนี้ชื่อของตนกลายเป็นผู้ต้องสงสัยรายเเรก ๆ หากคดีสิ้นสุดแล้วคนร้ายไม่ใช่ตนเอง สังคมต้องยอมรับ ยืนยันถึงความบริสุทธิ์ หากตำรวจจะจับกุมตนเองก็จะไม่หลบหนีและพร้อมเข้ามอบตัว ยืนยันว่าภายในพื้นที่ อบต.บางสมบูรณ์ ไม่มีอิทธิพล และไม่มีมาเฟีย
“ผมกลัวตายเพราะขณะนี้สังคมปรักปรำมาที่ตัวผม และญาติคนตายก็กำลังอยู่ในความเสียใจ หากผมถูกทำร้ายจะมีใครรับผิดชอบ”
นายประสพโชค ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดจึงไม่ตรวจสอบฝั่งตรงข้ามในคดีใช้อาวุธปืนอาก้าถล่มร้านคาราโอเกะที่ อ.แก่งคอยเมื่อ 5 ปีก่อน ล่าสุดน้องชายเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีการออกหมายจับกุมารขาวหรือนายรัฐพล ต้นสุวรรณรัตน์ มือปืนแล้ว
ยืนยันว่ารู้จักในฐานะญาติ เจ้านาย-ลูกน้อง เท่านั้น และมีความสนิทสนมกับทุกคนในฐานะที่เป็นอดีตนายก อบต. เชื่อว่าน้องชายเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ทราบว่าน้องชายจะก่อเหตุไปเพื่อสิ่งใด อีกทั้งยังไม่รู้จักฉายา “กุมารดำ-กุมารขาว” ไม่ทราบว่าใครเป็นคนตั้งฉายาดังกล่าว
“ผมก็งงเหมือนกัน ตำรวจมีหลักฐานใดที่มาออกหมายจับน้องชาย ตอนนี้อยู่ระหว่างการปรึกษากับทนาย ซึ่งน้องผมได้เข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยความบริสุทธิ์ใจ”
นายประสพโชค กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้พูดคุยกับน้องชาย ถึงกรณีดังกล่าว หากไม่ผิดก็ขอให้เข้ามอบตัว ลูกผู้ชายจะกลัวอะไร ซึ่งน้องชายก็อยู่ที่บ่อกุ้ง ไม่ได้หลบหนี แต่เมื่อเจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจค้นจำนวนมาก จึงได้แอบอยู่ที่ละแวกนั้น เพราะตกใจและกลัวถูกทำร้าย
ส่วนปมขัดแย้งกับนายญาณกร โท้ประยูร นายก องค์การบริหารส่วนตำบลบางสมบูรณ์คนปัจจุบัน นายประสพโชค กล่าวว่า ไม่ค่อยได้คุยกัน ส่วนกรณีฟ้องร้องธุรกิจแพกับทาง ป.ป.ช. คงจะไม่ใช่มูลเหตุของความขัดแย้ง และคงจะไม่เข้าข่ายการทุจริต ขอสังคมอย่าพุ่งเป้าไปที่ประเด็นการเมืองท้องถิ่น
นายประสพโชค ยังกล่าวอีกว่าตอนนี้ไม่อยากพูดคุยกับใครทั้งสิ้นรวมไปถึงฝั่งนายก อบต.คนปัจจุบันด้วย และครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่พูดคุยกับสื่อมวลชน ซึ่งตำรวจสามารถติดต่อผ่านทนายได้โดยตรง