ล่าสุดคุณแม่ภนิดาได้เปิดใจประเด็นร้อนดังกล่าวผ่านการไลฟ์ในเพจ “อีจัน บันเทิง” ว่าไม่ได้สนใจเงินมากกว่าคดีความของลูกสาว เพียงแต่เป็นการสมมติเท่านั้น
“เรื่อง 30ล้าน คุณแม่อยากอธิบายว่าคุณแม่ไม่ได้เน้นเรื่องเงินนะคะ คุณแม่เล่าให้ฟัง สมมติให้พี่หนุ่มฟัง อันนี้ขอโทษพี่หนุ่มด้วยถ้าคุณแม่กล่าวถึงพี่หนุ่ม (ยกมือไหว้) สมมติว่าถ้าน้องมีชีวิตอยู่ต่อ 30 ปี รายรับของน้องแสดงละครเรื่องละ 8 แสนถึง 1 ล้านบาท แล้วถ้าน้องอยู่ต่ออีก 30ปี ก็เอา 30 คูณเข้าไป ประชาชนจะได้เข้าใจว่าเป็นเงิน 30ล้านได้ยังไง คูณเข้าไปก็จะเป็นเงินที่คุณแม่สามารถเรียกร้องค่าสินไหมได้ ไม่ได้เจตนาว่าจะต้องเอาเงิน 30ล้านตอนนี้ เดี๋ยวนี้ คำว่า “สมมุติว่า” ไม่ได้ถูกลงในโซเชียล มีแต่คำว่าคุณแม่เห็นแก่เงิน
สำหรับเงินสินไหม มีผู้ใหญ่แนะนำมาให้แต่งตั้งผู้จัดการมรดก ไปทำใบมรณบัตร แนะนำให้หาทนายความ ส่วนที่คำนวณเป็นเงินคือได้รับข้อมูลมาจากผู้จัดการที่ชื่อนก เพราะเขาต้องดูแลเรื่องภาษี คุณแม่ก็ไปค้นที่บ้านก็ไปเจอรายรับน้องโมปึกนึงเลย แต่ต้องเอาไปให้พี่นกจัดการ จัดการเรื่องหนี้สินน้องโม บ้านสองหลัง รถหนึ่งคัน ทุกอย่างยังผ่อนอยู่เลย
ถ้าพูดเรื่องกระทบจิตใจคุณแม่นะ แม่พูดความจริงทุกเรื่องนะ แต่ประชาชนอาจจะไม่เข้าใจเพราะแม่พูดตรงๆ แต่ไม่ได้ลงรายละเอียด ซึ่งแม่ตอบนักข่าวทุกคำถาม และแม่ก็รักสื่อมวลชนเพราะคุณแม่ก็ทำงานด้านนี้มา คุณแม่ไม่เคยปฏิเสธนักข่าวคนไหนเลย มารุมกันเลยที่โรงพัก เขาก็เรียบร้อยทุกคน สุภาพกับแม่ทุกคน
เรื่องคดีเราก็รู้อยู่ขั้นตอนนึง สุดท้ายก็เรียกมาตรวจร่างกายคนที่เหลือ เนี่ยมีแค่นี้ที่คุณแม่รู้ ตำรวจเขาบอกได้แค่นี้ จริงๆคุณแม่ไว้ใจตำรวจโรงพักนี้ ประทับใจมาก คุณแม่ชอบตำรวจโรงพักนี้เขาให้เกียรติคุณแม่มาก ดูแลคุณแม่ดีมาก คุณแม่ได้ดูน้องโมที่หน้าโรงพักเลยนะ คุณแม่บอกขอให้คุณแม่ได้เห็นหน้าลูกก่อนไปนิติเวชได้ไหม”
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังได้ถามต่อว่าคุณแม่สนใจเรื่องการเสียชีวิตของแตงโมน้อยกว่าเรื่องเงิน 30ล้านหรือไม่ ซึ่งคุณแม่ได้ตอบว่า
“เรื่อง 30 ล้านเป็นข้อสมมติ คุณแม่ไม่ได้สนใจ สนใจแต่เมื่อไหร่คดีจะจบสักที แต่ไม่ได้เร่งรัดท่านตำรวจนะ มันยังน้อยที่จะสรุปคดีได้ คุณแม่ก็รอ เรื่องของคดี เราสนใจลูก ไม่ได้สนใจเงิน มันเป็นเรื่องของอนาคตที่เขาจะต้องขึ้นศาลให้ศาลตัดสิน มันเป็นสินไหมทดแทนให้ศาลพิจารณาคุณแม่ทราบขั้นตอนนี้ แต่สมมติให้ประชาชนหายสงสัยว่าคุณแม่จะทำอะไรต่อไป เพราะคุณแม่ได้ไปดำเนินการเรื่องเอกสารต่างๆแล้ว ก็เหนื่อยมาก ดำเนินเรื่องเป็นผู้จัดการมรดก เดินเรื่องใบมรณะบัตร
ยื่นการเป็นผู้จัดการมรดกไปแล้วก็รอศาลแต่งตั้ง ที่สำนักงานอัยการเขตมีนบุรี ตอนนี้ก็รอ คุณแม่มีเอกสารให้ดู ถ้าสมมติอนาคตไม่ได้เงินคุณแม่ก็ไม่ติดเลย คุณแม่เป็นคนทำทานเยอะมากนะคะ แจกทุกคนที่เห็นว่าด้อยกว่าเราและลำบาก แม้แต่เพื่อนที่ทำธุรกิจลำบากคุณแม่ก็ให้ยืม อย่ามองว่าคุณแม่เห็นแก่เงิน ให้มองว่าแม่ก็ยังอยากทราบเรื่องคดีว่าน้องโมเสียชีวิตด้วยเหตุใดมากกว่า เรื่องเงิน 30ล้านเนี่ยไม่มีปัญหาสำหรับคุณแม่ ไม่ได้อยู่ในใจเลย แค่อยากอธิบาย คือมีคนถามไง มีคนจี้ถามทุกวันไง”