เมื่อวันที่12 มีนาคม อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และเป็น เลขานุการคณะกรรมาธิการ กมธ. การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนฯ เขียนข้อความเล่าถึงกรณี กมธ.มีมติเรียกผู้บริหารจุฬาฯ เข้าพบ กรณีตัดคะแนนนายกองค์การบริหารสโมสรนิสิตฯ จนเป็นเหตุให้พ้นจากตำแหน่ง จากกรณีการเชิญนักเคลื่อนไหวทางการเมืองมาพูดงานปฐมนิเทศน์และมีการใช้คำหยาบคาย โดย ระบุว่า
ในฐานะกมธ. หลังรับฟังคำชี้แจงจากรองอธิการและผู้ช่วยอธิการบดีจุฬาฯ ถึงเหตุผลที่ตัดคะแนนความประพฤติเนติวิทย์ 10 คะแนนจนทำให้ขาดคุณสมบัติต้องหลุดจากตำแหน่งนายกอบจ.ไปทันที จากกรณีเนติวิทย์เชิญอ.ปวิน เพนกวินและรุ้งมา live เข้าในงานปฐมนิเทศนิสิตใหม่จุฬา ดิฉันได้ฝากความเห็นและข้อคิดถึงความยืดหยุ่นของยุคสมัยและระเบียบการของจุฬาเรื่องวินัยนิสิตนี้ที่มีมา 38 ปี (วินัยนิสิตปี 2527) แล้วควรจะมีการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับยุคสมัย และในขณะที่ชมรมนิสิตจุฬาฯ 25 ชมรมคัดค้านการตัดคะแนนความประพฤติ นักศึกษามช.ก็ได้ออกแถลงการณ์ประนามการตัดคะแนนความประพฤติครั้งนี้ ตัวดิฉันในฐานะกมธ.ก็คิดว่าอาจจะเป็นการตัดคะแนนที่ไม่เหมาะสมเพราะนายกอบจ.เป็นตำแหน่งที่มาจากการเลือกตั้ง โดยเฉพาะ เนติวิทย์ ได้รับเลือกตั้งจากเพื่อนนิสิตจุฬามากกว่า 1 หมื่นคะแนน ก็ขอให้อ.รับฟังประชาคมจุฬาและรับฟังความเห็นของสังคม หากเป็นไปได้ขอเสนอให้ทบทวนความเห็นคัดค้านของนิสิตกว่าหมื่นคนที่เป็นคนเลือกเนติวิทย์มาดำรงค์ตำแหน่งนายกอบจ. และคนที่พูดคำหยาบ (ตามที่อาจารย์คิด) ก็ไม่ใช่ตัวเนติวิทย์ อีกทั้งคำหยาบนั้นเป็นเพียงกระพี้ต้องไปดูเนื้อหาที่ เพนกวิน ต้องการจะสื่อ คำหยาบในยุคสมัยหนึ่งไม่ได้หยาบให้อีกยุคสมัยหนึ่งก็มีเยอะ เพราะวัฒนธรรมประเพณีการใช้ภาษาเป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ถึงวันนี้อะไรที่ไม่เข้ากับยุคสมัยต้องพิจารณาปรับตัว องค์กรที่ไม่ปรับตัวจะเสื่อมเกียรติภูมิมากกว่ามารักษาเกียรติภูมิด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง รองอธิการกล่าวขอบคุณที่ให้ข้อคิดและกล่าวยอมรับว่าเป็นข้อคิดที่มีประโยชน์ จะนำไปพิจารณาต่อไป#บีบจุฬาทบทวนใหม่