คำสั่งปลด พล. อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง5 หรือททบ.5 มาจากผู้มีอำนาจที่ไม่ใช่อื่นไกล ซึ่งพอจะบอกได้อย่างไม่ต้องอ้อมค้อมกันว่าเป็นลุงกับบัวแก้ว
ที่ผ่านมาลุงกับบัวแก้วทำงานประสานกันอย่างกับปี่กับขลุ่ยในการดำเนินนโยบายการต่างประเทศที่เอนเอียงไปทางมหาอำนาจตะวันตกอย่างชัดเจน เพื่อเป็นลิ่วล้อที่ดีต่อไป โดยไม่ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์กับรัสเซียและจีนซึ่งเป็นตัวแทนของมหาอำนาจขั้วตะวันออกที่พยายามท้าทายมหาอำนาจตะวันตกที่กดขี่ เอาเปรียบ รังแก และผูกขาดอำนาจในโลกใบนี้มาเป็นเวลาหลายศตวรรษแล้ว
แล้วพล อ รังษีไปทำอะไรถึงทำให้ลุงกับบัวแก้วไม่พอใจ
เรื่องของเรื่องมีว่า ข่าวใหญ่ที่สุดที่มีคนติดตามอย่างใกล้ชิดทั่วโลกในเวลานี้คือสงครามยูเครน ที่สื่อไทยและคนไทยให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะแนวโน้มอาจจะพัฒนากลายเป็นสงครามโลก ซึ่งจะมีผลกระทบต่อคนไทย หรือความเป็นความตายของประเทศไทยอย่างเลี่ยงไม่ได้
แต่ที่มาพร้อมๆกับสงครามยูเครนคือสงครามข่าวสาร มีการเผยแพร่เฟคนิวส์ ข่าวลวง ข่าวหลอกหรือการโฆษณาชวนเชื่อเต็มไปหมด จนแทบที่จะแยกแยะไม่ออกว่าข่าวไหนจริง ข่าวไหนปลอม
เป็นที่ทราบกันดีว่า ข่าวสารทุกวันนี้ถูกครอบงำโดยสื่อตะวันตกไม่ว่าจะเป็นบีบีซี ซีเอ็นเอ็น เอ็นบีซี เอบีซี ซีบีเอส เอพี รอยเตอร์ส เอเอฟพี The New York Times The Washington Post ในขณะเดียวกัน สื่อโซเซี่ยลไม่ว่าจะเป็นเฟสบุ๊ค ทวิทเตอร์ กูเกิ้ล ยูทูปก็ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียง หรือโฆษณาช่วนเชื่อให้ตะวันตกเหมือนกันโดยสร้างภาพนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ผู้นำยูเครนเป็นฮีโร่ ส่วนปูตินผู้นำของรัสเซียกลายเป็นผู้ร้าย และมีการรายงานข่าวสงครามในยูเครนไม่ตรงไปตรงมา ทำให้ทิศทางในข่าวสารออกมาเพียงด้านเดียว
สื่อไทยส่วนมากจึงรายงานข่าวสงครามยูเครนไปในทิศทางเดียว เนื่องจากซื้อข่าว หรือเอาข่าวของตะวันตกมาแปล หรือวิเคราะห์ต่อ ทำให้มีการมองรัสเซีย หรือจีนในเชิงลบ หรือมองว่าเป็นประเทศเผด็จการที่ไม่น่าไว้ใจ ในขณะเดียวกันเชื่อในแนวคิดที่ว่าสหรัฐเป็นตัวแทนของโลกเสรีประชาธิปไตย และสิทธิเสรีภาพ ทั้งๆที่สหรัฐเป็นจักรวรรดิตัวร้ายที่ก่อสงครามในพื้นที่ต่างๆท่ัวโลกมาตลอด200 กว่าครั้ง ตลอดอายุของการเป็นสาธารณรัฐสองร้อยกว่าปี และขายอาวุธให้แก่ประเทศต่างๆทั่วโลก
เมื่อสื่อไทยรายงานอย่างนี้ คนไทยส่วนใหญ่ก็มีความเห็น ความนึกอ่านคล้อยตาม หรือหลงเชื่อตาม เนื่องจากไม่มีทางเลือกในการบริโภคข้อมูลข่าวสาร
น้อยคร้ังที่สื่อไทยจะเอาข่าวของสื่ออาร์ที สปุตค์นิก นิวส์ของรัสเซีย หรือThe Global Times, China Dailyของจีน หรือสื่อPress TVของอิหร่านมาเผยแพร่ หรือมาวิเคราะห์เพื่อที่จะได้เนื้อหาครบทุกด้าน หรือพูดง่ายๆฟังความท้ังสองฝ่าย
พล อ รังษีเป็นผู้ที่มีความคิด เปิดใจ รับฟังความเห็นในวงกว้างอยากให้คนไทยได้รับข้อมูลข่าวสารครบทุกด้าน เพราะเห็นว่าที่ผ่านมาคนไทยได้รับข้อมูลด้านเดียวเป็นส่วนใหญ่ จึงมีการประสานเอาข่าวจากรัสเซีย จีน อิหร่าน รวมท้ังยูเครนนำเสนอในช่อง5ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยไม่ต้องเสียเงินเสียทอง ในขณะเดียวกันช่อง5ต้องจ่ายค่าข่าวให้สำนักข่าวรอยเตอร์ถึงปีละ2ล้านบาท
ช่อง5เตรียมเสนอข่าวสงครามยูเครนท้ัง2ด้าน โดยใช้ข่าว หรือข้อมูลจากสำนักข่าวตะวันตก และสำนักข่าวที่เป็นทางการของรัสเซีย จีน อิหร่านและยูเครนด้วย ซึ่งน่าที่จะเป็นนิมิตหมายที่ดี และเป็นเรื่องที่น่าชมเชยเป็นอย่างมาก เพราะว่าจะเป็นการเปิดหูเปิดตาคนไทยให้ได้รับข่าวสารรอบด้าน
“ส่ิงที่คนไทยได้คือฟังข่าวสองด้าน ช่อง5มีหน้าที่ในการนำข้อมูลข่าวสารมาให้ประชาชน ผมเชื่อว่าข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่สำคัญ ที่คนไทยควรรับไปพิจารณา ผมไม่ได้บอกให้เชื่อช่อง5 สิ่งที่ผมทำคืออยากให้ประชาชนคนไทยคิด เมื่อได้รับข้อมูลข่าวสารจากทุกมุมและไปตัดสินใจ รวมถึงวางแผนอย่างไรต่อไปในการอยู่กับความวุ่นวายนี้” พล อ รังษีกล่าวตามรายงานของไทยโพสท์ในวันที่24มีนาคมที่ผ่านมา
“ช่อง5 ไม่ได้ชี้ว่าใครผิด ใครถูก เพราะเราไม่รู้จริง แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้ว เราเป็นประเทศที่อยู่ข้างนอก เราก็ได้ทำแค่ศึกษาติดตาม และให้คนไทยได้คิด”
บังเอิญทางช่อง5มีข้อตกลงให้Top Newsเข้ามาทำรายการ ปรากฎว่าเกิดเหตุที่ไม่คาดฝันในช่วงข่าวเที่ยงททบ.5 ในวันจันทร์ที่ 28มีนาคมที่ผ่านมา ผู้ประกาศข่าวคือคุณปอง อัญชลี กับคุณกิตติมากำลังรายข่าวสงครามยูเครนกับรัสเซีย แต่สัญญานถูกตัดเข้าโฆษณา ทำให้เป็นที่ทราบกันต่อมาว่าถูกแบล็คเอาท์ หรือถูกเซ็นเซอร์ ซึ่งไม่ใช่เป็นคำสั่งของ พล อ รังษีแน่นอน ต่อมาทางTop Newsประกาศว่าขอยกเลิกสัญญาการนำเสนอรายการข่าวกับช่อง5z
หลังจากนั้นก็มีข่าวใหญ่ว่า พล. อ. รังษีได้ลาออกจากตำแหน่ง ผอ. ช่อง5 โดยมติชนรายงานการสัมภาษณ์ พล อ รังษรที่พูดว่า “คำสั่งพ้นหน้าที่ผมวันที่ 7 เมษายน และผมเป็นการขอพ้นหน้าที่เอง ผมทำหนังสือถึงผู้บัญชาการทหารบกว่าผมขอพ้นหน้าที่ด้วยเหตุผลส่วนตัว ผบ.ทบ. ท่านก็ลงนามให้ผมพ้นหน้าที่นะครับ ก็มีเท่านี้ ไม่ใช่เป็นการปลดนะครับ เป็นการพ้นหน้าที่ เพราะว่าจะได้ให้เป็นความแฟร์กับ ผบ.ทบ. เขา”
อ่านแล้วทำให้เข้าใจได้ว่า มีมือที่มองไม่เห็นไม่พอใจ พล. อ. รังษี ที่จะเอาข่าวของรัสเซีย จีน อิหร่านและยูเครนมานำเสนอในช่อง5 ควบคู่กับข่าวของสำนักข่าวตะวันตก รวมถึงการรายงานข่าวของTop Newsที่อาจจะไม่ได้เข้าข้างมหาอำนาจตะวันตกในสงครามยูเครน
มือที่มองไม่เห็นก็คือผู้บริหารประเทศสูงสุด ที่ไม่พอใจการทำงานของ พล อ รังษี จึงมีการกดดันผ่านพล. อ. ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบทบ.ที่เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง พล อ รังษีจึงชิงลาออกจากตำแหน่งก่อน
มีข่าวแว่วๆว่า มหาอำนาจตะวันตกไม่พอใจช่อง5จึงส่งสัญญานไปยังบัวแก้วให้ช่วยจัดการ บัวแก้วจึงส่งความกังวลใจของมหาอำนาจตะวันตกต่อไปยังมือที่มองไม่เห็น มือที่มองไม่เห็นจึงจึงกดดันต่อไปถึงผบทบ. ผบทบ.จึงแจ้งให้พล อ รังษีได้รับทราบ พล อ รังษีจึงขอลาออกจากตำแหน่ง เพราะว่าได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสมบูรณ์แล้ว
เรื่องของสงครามยูเครนที่ช่อง5น่าจะเป็นเช่นนี้ สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลกำลังปิดหูปิดตาประชาชนให้ฟังความ หรือรับรู้ข่าวสารด้านเดียว เป็นการล้างสมองคนไทย และมีการดำเนินนโยบายที่เอียงไปทางประเทศตะวันตกและพันธมิตรที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนไป ในขณะที่ความเสี่ยงของสงครามยูเครนที่จะพัฒนาเป็นสงครามโลกกำลังปะทุรุนแรงขึ้นทุกขณะ
29/3/2022