6 เม.ย.2565 – สืบเนื่องจากแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า 10 เมษายน 2565 ครบรอบ 12 ปี เหตุการณ์ล้อมปราบการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง
ปฏิบัติการทางทหารเต็มรูปแบบ โยนแก๊สน้ำตาจากเฮลิคอปเตอร์ลงกลางกลุ่มผู้ชุมนุม ใช้กำลังต่อเนื่องถึงเวลากลางคืน อาวุธสงครามติดกล้องยิงระยะไกลจากจุดสูงข่ม ครั้งแรกในโลกที่รัฐใช้อาวุธแบบนี้กับประชาชนที่ชุมนุมมือเปล่ากลางเมืองหลวง
ทุกศพประชาชนไม่มีอาวุธ ไม่มีคราบเขม่าดินปืน
หลังเหตุการณ์ทั้งแกนนำและประชาชนผู้ร่วมชุมนุม ถูกจับกุมคุมขังดำเนินคดีหลายร้อยคน จำเลยที่ถูกกล่าวหาว่าใช้ความรุนแรง ทั้งก่อการร้ายและชายชุดดำ ทุกคดียกฟ้อง หลายคดีถึงที่สุดในชั้นฎีกา
ส่วนคดีฝ่ายรัฐถูกกล่าวหาว่ายิงประชาชนกลับพายเรือในอ่าง ศาลอาญา ป.ป.ช. ศาลทหาร แล้วกลับมาที่เดิมไม่คืบหน้า ทั้งที่มีการไต่สวนสาเหตุการตาย และศาลชี้เกือบ 20 รายว่าเสียชีวิตจากกระสุนปืนฝ่ายเจ้าหน้าที่
ทุกปีเราจัดรำลึกเหตุการณ์นี้ ต่อเนื่องกันจนครบ 12 ปี ยังไม่มีความยุติธรรม
10 เมษายนนี้ พบกันที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ถนนราชดำเนิน ตั้งแต่ 13.00 น. ถวายสังฆทาน วางดอกไม้ ปราศรัยรำลึกวีรชน
สงบ สันติ ปราศจากอาวุธ แต่ไม่ปราศจากความเป็นมนุษย์
ไม่ประสงค์ปลุกความเกลียดชัง แต่ต้องการแสดงความรักของประชาชนต่อประชาชน รักความจริง รักความยุติธรรม รักหลักการคนเท่ากัน
#ยุติธรรมไม่มี12ปีเราไม่ลืม
ขณะที่นายธันวา ไกรฤกษ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพ พรรคพลังประชารัฐ แสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊กว่า พี่เต้นโพสต์เฟสนัดจัดงานรำลึก 10 เมษา ด้วยสโลแกน #12ปียังไม่มีความยุติธรรม
แกคงเห็นชัชชาติกับอุ๊งอิ๊งกำลังมาแรง เดี๋ยวจะแลนด์สไลด์ เลยต้องขอออกมาแตะเบรกคนกรุงด้วยการชวนรำลึกถึงพฤติกรรมที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
ผมคนนึงนะที่พยายามทำใจจะลืมอยู่แล้ว แต่พี่แกดันออกมาแบบนี้ ทำให้คิดถึงวันเก่าๆวันที่คนไทยถูกทำร้ายจิตใจอย่างแสนสาหัส ซึ่งมันถูกเชื่อมโยงกับพรรคและบุคลากรของพี่โทนี่เต็มๆ
ผมเข้าใจดีว่าในแต่ละพรรคไม่มีใครดีทั้งหมดและเลวทั้งหมด แต่ถ้าพรรคใดก็ตามอยากจะประสบความสำเร็จ ก็ต้องรู้จักควบคุมการแสดงออกของคนในพรรคให้ได้ด้วย
..ไม่อย่างนั้น ยากครับ!!
#เผาเลยพี่น้องผมรับผิดชอบเอง #12ปียังจำได้แม่น