วันนี้ (9 เม.ย.) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวงฯ โดยเฉพาะในกรมปศุสัตว์ กรมประมง กรมชลประทาน สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร หรือ ส.ป.ก. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปพบปะกับประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมฉับพลันในระหว่างวันที่ 6-7 เม.ย.ที่ผ่านมา ในพื้นที่ อ.สิชล โดยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ได้มารวมตัวที่ศาลาประชาคมอำเภอสิชล มี น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ให้การต้อนรับ โดยนายเฉลิมชัย ได้เข้าเยี่ยมผู้ประสบภัย พร้อมนำถุงยังชีพ และเวชภัณฑ์ครัวเรือน พร้อมนำอาหารสัตว์ และถุงเวชภัณฑ์ปศุสัตว์พระราชทาน จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นำแจกจ่ายให้ประชาชน
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ทุกหน่วยงานมีความห่วงใยในเหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง และรวดเร็วอย่างมาก ทำให้เกิดความเสียหาย ความเดือดร้อนต่อประชาชนจำนวนมาก ซึ่งได้กำชับให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลเยียวยาตามระเบียบที่กำหนดอย่าให้ล่าช้า
หลังจากเยี่ยมประชาชนแล้ว นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นทางการเมือง โดยเฉพาะในส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ที่กำลังถูกจับตามองถึงความเคลื่อนไหวของว่าที่ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ ใน จ.นครศรีธรรมราช ที่มีถึงกว่า 10 คน ในขณะที่มีเขตเลือกตั้งที่ถูกกำหนดใหม่เพียง 9 เขตเท่านั้น รวมทั้งสถานการณ์ความระหองระแหงภายในพรรค และการลาออกของคนสำคัญในพรรคอย่างต่อเนื่องว่า ในส่วนของผู้สมัคร ส.ส.ใน จ.นครศรีธรรมราชนั้น บอกได้อย่างเดียวว่าพรรคส่งได้แค่ 1 คนต่อ 1 เขตเลือกตั้งเท่านั้น และยืนยันว่าจะคัดคนที่ดีที่สุดเพื่อมาเป็นตัวเลือกให้ประชาชน และอีกส่วนคือต้องดูประชาชนเป็นหลักว่าเขาต้องการใคร
ในส่วนของรอยร้าวในพรรคประชาธิปัตย์นั้น นายเฉลิมชัย ยอมรับว่า เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้น และต้องมีเวลามานั่งคุยกันจริงจังว่ารอยร้าวนั้นเกิดจากปมอะไร เกิดจากสภาพความเป็นจริงที่มีความขัดแย้ง หรือเกิดจากปมประเด็นการเมืองนอกพรรคด้วย ในฐานะเลขาธิการพรรคนั้นได้ประสานรอยร้าวให้มันราบรื่นให้ดีที่สุด และเชื่อว่าไม่มีองค์กรไหนที่ไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่เมื่อมีปัญหาเราก็ต้องแก้ไข
ต่อข้อถามเลือดไหลออกอย่างต่อเนื่องจากพรรคนั้น นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ในเรื่องนี้ตนไม่มีความสุขเลยแม้แต่ครั้งเดียวในวันที่มีคนออกจากพรรค แต่พรรคเป็นองค์กรเป็นสถาบันก็ต้องทำสิ่งที่ดีที่สุดให้พรรค และประชาชน การเลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นตัวตัดสินทั้งหมดว่าการตัดสินใจของกรรมการบริหารพรรคครั้งนี้จะถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง และจะต้องมีคนรับผิดชอบ ซึ่งตนเป็นหนึ่งคนในนั้น และในวันนี้กรรมการบริหารพรรคชุดนี้คือชุดปัจจุบัน มาแก้ปัญหาให้พรรค และมาร่วมกับรัฐบาล ถ้าจะพิสูจน์กรรมการบริหารพรรคชุดนี้จริงๆ จะต้องรอการเลือกตั้งครั้งหน้า