วันนี้ สื่อต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ จะพูดคุยทางไกลกับนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดียในวันนี้ ซึ่งจากการเปิดเผยของทำเนียบขาว ในช่วงเวลาที่อเมริกาแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า ไม่ต้องการเห็นอินเดียยกระดับการนำเข้าน้ำมันของรัสเซีย
.
เจน ซากิ เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนของทำเนียบขาว ระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า “ประธานาธิบดีไบเดนจะเดินหน้าปรึกษาหารือใกล้ชิดเกี่ยวกับผลสืบเนื่องจากสงครามอันโหดร้ายของรัสเซียกับยูเครน และบรรเทาผลกระทบของมันที่บั่นทอนเสถียรภาพอุปทานอาหารโลก และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์”
.
ดาลีป ซิงห์ รองที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ซึ่งเพิ่งเดินทางเยือนอินเดียเมื่อไม่นานมานี้ กล่าวว่า อเมริกาจะไม่ “ขีดเส้ยตายใดๆ สำหรับอินเดีย ต่อการนำเข้าพลังงานจากรัสเซีย แต่ไม่ต้องการเห็นอินเดียเร่งซื้อน้ำมันจากรัสเซียมากขึ้น”
.
ทั้งนี้ หลังจากถูกล่อใจด้วยราคาลดกระหน่ำ อินเดียซื้อน้ำมันดิบรัสเซียแล้วอย่างน้อย 13 ล้านบาร์เรล นับตั้งแต่มอสโกรุกรานยูเครนในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่เมื่อปีที่แล้วตลอดทั้งปี อินเดียซื้อน้ำมันจากรัสเซีย เพียงราวๆ 16 ล้านบาร์เรล
.
การพบปะหารือครั้งนี้จะเริ่มต้นด้วย “การประชุมระดับรัฐมนตรี 2+2 สหรัฐฯ-อินเดีย” ระหว่างแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กับสุพรหมณยัม ชัยศังกระ รัฐมนตรีกิจการต่างประเทศของอินเดีย และ รัชนาถ ซิงห์ รัฐมนตรีกลาโหมอินเดีย จากการเปิดเผยของทำเนียบขาว
.
ไบเดน ซึ่งพูดคุยกับ โมดี ครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนมีนาคม เร็วๆ นี้เคยบอกว่า มีเพียงอินเดียชาติเดียวในกลุ่ม Quad ที่มีจุดยืนสั่นคลอนในการดำเนินการกับรัสเซีย ต่อกรณีรุกรานยูเครน
.
อินเดียพยายามสร้างสมดุลในความสัมพันธ์กับรัสเซีย และตะวันตก แต่ต่างจากสมาชิกอื่นๆ ของ Quad ประกอบด้วย สหรัฐฯ ญี่ปุ่นและออสเตรเลีย อินเดียไม่กำหนดมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานรัสเซีย
.
รัสเซียคือ ผู้จัดหายุทโธปกรณ์กลาโหมรายใหญ่ที่สุดของอินเดียมาช้านาน แม้อินเดียเพิ่มการสั่งซื้อจากสหรัฐฯ มากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ขณะที่นักวิเคราะห์ด้านกลาโหมมองว่า อุปทานอาวุธยุทโธปกรณ์ของรัสเซียมีราคาที่น่าดึงดูดใจมากกว่า และมีความสำคัญกับอินเดีย ในขณะที่นิวเดลีต้องเผชิญหน้ากับกองทัพจีน ที่มีแสนยานุภาพเหนือกว่า
.
ครั้งที่ ดาลีป ซิงห์ เดินทางเยือนอินเดีย เขาบอกว่า สหรัฐฯ พร้อมให้ความช่วยเหลืออินเดีย ด้านความหลากหลายทางพลังงาน และอุปทานกลาโหม ในขณะที่อินเดีย คือชาติผู้นำเข้า และบริโภคพลังงานรายใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลก
.
ดาลีป ซิงห์ เตือนด้วยว่า สหรัฐฯ ไม่ต้องการเห็นพันธมิตรช่วยกอบกู้รูเบิล ซึ่งเคยดำดิ่งทันทีหลังสงครามเริ่มต้นขึ้น แต่ฟื้นตัวกลับมาแล้วในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
.
ยูเครน เปิดเผยในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า กำลังขอให้สหภาพยุโรปกำหนดมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่เล่นงานมอสโก และร้องขอความช่วยเหลือด้านการทหารมากขึ้นจากพันธมิตร ในขณะที่พวกเขาเตรียมพร้อมรับมือกับการโจมตีครั้งใหญ่ของรัสเซีย ในภาคตะวันออกของประเทศ
.
รัสเซีย ล้มเหลวไม่สามารถยึดเมืองหลักๆ ได้เลยนับตั้งแต่เปิดฉากรุกรานในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ แต่ยูเครนบอกว่า รัสเซียกำลังระดมกำลังในภาคตะวันออกสำหรับโจมตีครั้งใหญ่ และเร่งเร้าประชาชนอพยพหลบหนีออกมา
.
มอสโก ปฏิเสธคำกล่าวอ้างของยูเครน และตะวันตก ที่กล่าวหาพวกเขาก่ออาชญากรรมสงคราม และยืนกรานว่า ไม่ได้เล็งเป้าเล่นงานพลเรือน ในสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า ปฏิบัติการพิเศษด้านการทหารเพื่อปลดอาวุธ และทำลายความเป็นนาซีในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ทางยูเครน และตะวันตกระบุว่า มันเป็นคำกล่าวอ้างทำสงครามที่ไร้เหตุผล
.
นอกจากประเด็นยูเครนแล้ว ซากิ บอกต่อว่า ไบเดน และโมดี จะหารือความร่วมมือในประเด็นอื่นต่างๆ ในนั้นรวมถึงโรคระบาดใหญ่โควิด-19 ตอบโต้วิกฤตโลกร้อน เสริมความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจโลก และยึดมั่นในระเบียบโลกบนพื้นฐานของกฎระเบียบที่เสรีและเปิดกว้าง เพื่อส่งเสริมความมั่นคง ประชาธิปไตย และความรุ่งเรืองในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
——————————-