เรื่องฮอต ประเด็นฮิต » #พม่าส่งตัว “บังลาย” !ตัวการใหญ่เครือข่ายยาเสพติดในภาคใต้

#พม่าส่งตัว “บังลาย” !ตัวการใหญ่เครือข่ายยาเสพติดในภาคใต้

17 April 2022
409   0

   เวลา 13.00 วันที่ 8 เมษายน ที่ด่านพรมแดนสะพาน 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย พ.ต.ท.กิตติธร นาคเกลี้ยง รอง ผกก.ตม.เชียงราย พ.ต.ท.มนตรี อินเปรี้ยว สว.ตม.เชียงราย ร่วมกับตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ปปส.ตำรวจ สภ.แม่สาย เข้ารับตัวนายธวัชชัย หรือเฮียเก้า อ้อมชมภู หรือบังลาย อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 16/10 หมู่ 1 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ และเคยช่วยเหลือ เปรี้ยวฆ่าหั่นศพ หนีข้ามไปอยู่เมียนมา ภายหลังถูกเจ้าหน้าที่เมียนมาจับคดีหลบหนีเข้าเมืองและคดีสิ้นสุด จึงควบคุมตัวส่งกลับไทย

เมื่อมาถึงพรมแดนฝั่งไทย เจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายจับศาลอาญาที่ 540/63 ลงวันที่ 1 ธ.ค.63 ข้อหามีเฮโรอีนเกิน 20 กรัมไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และตามหมายจับศาลอาญาที่ 575/2563 ลงวันที่ 21 ธ.ค.63 ข้อหามียาบ้าไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่าย และสมคบร่วมกันฟอกเงิน

สำหรับนายธวัชชัย หรือบังลาย เป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ ที่ตำรวจ บช.ปส. ต้องการตัวเป็นอย่างมาก เป็นนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ระดับสั่งการ มีเครือข่ายเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในภาคใต้ ลักลอบนำเข้าจากเมียนมา ส่งเข้าพื้นที่ จ.พัทลุง และอีกหลายจังหวัดของภาคใต้ นายธวัชชัยจะฝังตัวอยู่ในเมียนมา เป็นตัวการจัดทีมลำเลียงยาเสพติดล็อตใหญ่ๆ ให้กับกลุ่มค้ายาเสพติดฝั่งเมียนมา ส่งผ่านไทยไปประเทศที่สาม

ปี 2560 นายธวัชชัย หรือ บังลาย เป็นตัวการช่วยเหลือ น.ส.ปรียานุช หรือ เปรี้ยว โนนวังชัย อายุ 22 ปี กับพวก ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ แอ๋ม อายุ 22 ปี พื้นที่ อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ขณะหลบหนีข้ามฝั่งไปอยู่ใน จ.ท่าขี้เหล็ก ก่อนที่ น.ส.ปรียานุช จะมาถูกทางการเมียนมาจับตัวได้ทั้งแก๊ง ส่งตัวกลับไทย

“คดียาเสพติดที่นายธวัชชัย หรือบังลาย ตัวการใหญ่สั่งการจนถูกออกหมายจับ จากคดีเมื่อเดือนตุลาคม 2563 ตำรวจ บก.ปส.4 จับกุมผู้ต้องหา 2 คน พร้อมยาบ้า 1 ล้านเม็ด และตำรวจ บก.ปส.3 จับกุมผู้ต้องหา 6 คน พร้อมเฮโรอีน 1,000 แท่ง น้ำหนักประมาณ 400 กก. จึงขยายผลกระทั่งพบว่าทั้ง 2 คดี มีนายธวัชชัย หรือ บังลาย เป็นตัวการใหญ่ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับจำนวน 2 คดี ในข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดและสมคบ และร่วมกันมียาเสพติด, สมคบ และฟอกเงิน ขยายผลกวาดล้างจับกุมเครือข่ายได้จำนวนหลายราย ยึดทรัพย์จากการกระทำความผิดมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท และประสานทางการเมียนมา ร่วมกดดันกระทั่งมีการส่งตัว นายธวัชชัย มาดำเนินคดีฝั่งไทย”