12 พ.ค. 2565 – นายกฤษฏา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณาออกมาตรการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง โดยคาดว่าไม่นานนี้จะได้เห็นความชัดเจน
“ตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียด โดยเฉพาะการจัดการงบประมาณมาอุดหนุนโครงการ ซึ่งกระทรวงการคลังจะต้องขอประเมินการจัดเก็บรายได้ และดูผลกระทบต่อฐานะการคลัง ให้ชัดเจนอีกครั้ง” นายกฤษฎา กล่าว
ทั้งนี้ การใช้เงินในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 จะมาจาก พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 (พ.ร.ก.กู้เงินช่วยโควิด-19 ฉบับที่ 2) กรอบวงเงิน 5 แสนล้านบาท ซึ่งขณะนี้เหลือ 7 หมื่นบาท คาดว่าจะเพียงพอรองรับการดำเนินการ ส่วนที่ว่าจำเป็นต้องมีการกู้เงินมาใช้เพิ่มเติมหรือไม่ ต้องขอประเมินการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในเดือน เม.ย. 2565 ที่จะมีความชัดเจนหลังวันที่ 15 พ.ค.นี้ จึงจะเห็นแนวโน้มการจัดเก็บรายได้ทั้งปี 2565 ถ้าเกินเป้าหมาย ก็ยังมีช่องว่างในการทำนโยบายอยู่
นายกฤษฏา กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 3 บาทนั้น ขณะนี้ยังเหลือเวลาพิจารณา เนื่องจากมาตรการมีอายุถึงวันที่20 พ.ค. ซึ่งนโยบายช่วยเหลือมีแน่นอน ทั้งการขยายอายุลดภาษีดีเซลออกไป หรือจะมีการลดภาษีเพิ่มเติม ส่วนจะเลือกใช้แนวทางใดบ้าง ต้องขอพิจารณาอีกครั้ง ให้รอดู ซึ่งการลดภาษีดีเซลอีก สามารถทำได้ และยืนยันว่าไม่กระทบกับฐานะการคลังทั้งปี
สำหรับมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่จะหมดอายุในวันที่ 20 พ.ค. นี้ ครม.ได้อนุมัติลดเก็บภาษีน้ำมันดีเซลทุกรายการลง 3 บาทต่อลิตร เป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาภาคเอกชนเสนอให้ขยายเวลาลดภาษีดังกล่าวออกไปอีก 3 เดือน
นายกฤษฏา กล่าวว่า สำหรับมาตรการแก้หนี้บัตรเครดิต ที่ผ่านมาได้หารือไปหลายรอบ ทั้งการแก้หนี้ประชาชน รวมถึงแก้หนี้บัตรเครดิต ที่ขอความร่วมมือภาคเอกชน รวมทั้งในส่วนของธนาคารออมสินก็ได้ดำเนินการไปหลายเรื่อง ทั้งการลดหนี้บัตรเครดิต ลดดอกเบี้ย รวมทั้งการลดดอกเบี้ยเช่าซื้อ