เมื่อเวลา 18.15 น. วันที่ 23 พฤษภาคม ที่ร้าน The Corner ซอยสุขุมวิท 26 นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วยนายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี พรรค พท. รับประทานอาหารค่ำร่วมกับหัวหน้ากลุ่ม 16 นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) รวมถึงพรรคเล็ก นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ นายดล เหตระกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) และนายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทรักธรรม
โดยนายพิเชษฐได้ออกตัวกับสื่อมวลชนว่า ไม่ให้ระบุว่าตนสังกัดพรรคการเมืองใด เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างถูกตัดสิทธิไม่ให้ใช้ชื่อ สัญลักษณ์ จึงขอให้ระบุว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรค
นายยุทธพงศ์กล่าวต่อว่า การมาพูดคุยกันวันนี้ ถ้าจะถามว่าพรรค พท.ซึ่งเป็นฝ่ายค้านจะมาล้ม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรื่องอะไร สิ่งที่มีข้อมูลและจะใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจ ได้แก่ เรือดำน้ำไม่มีเครื่องยนต์ ซึ่งกระทบถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมไปถึงกรณีโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก
ซึ่งถึงขณะนี้ยังไม่มีการเซ็นสัญญา และล่าสุดตนมีประเด็นใหม่ซึ่งขัดแย้งกับคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่ารัฐบาลนี้จะไม่มีการทุจริต แต่ขณะนี้มีข้อมูลว่ามีการเรียกรับเงินในการแต่งตั้งโยกย้ายซึ่งคนเรียกรับเป็นนักการเมือง และใช้เงินถึง 8 หลัก โดยเป็นคนในกระทรวงใหญ่แต่ไม่ขอบอกว่าเป็นกระทรวงใด
“ฝากถึง พล.อ.ประยุทธ์ว่าให้นัดมา ผมพร้อมที่จะไปพบทุกที่เพื่อให้ข้อมูลเรื่องดังกล่าว นอกจากนี้จะมีการประเมินถึงผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.เมื่อวานนี้ (22 พฤษภาคม) นี้ด้วยว่า เป็นการสะท้อนว่าขณะนี้ประชาชนไม่เอา 3 ป. และต้องจับตาต่อไปว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ พล.อ.ประยุทธ์จะถอน หรือทำอย่างไรกับเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งเป็นวาระที่ค้างอยู่ในที่ประชุม ครม. เพราะเรื่องนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าฯกทม. ประกาศชัดเจนว่าไม่ยอมรับสิ่งที่เกิดจากการตัดสินใจด้วยมาตรา 44 ซึ่งไม่เป็นไปตามกระบวนการปกติ” นายยุทธพงศ์กล่าว
นายยุทธพงศ์ยังกล่าวถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ไม่ได้เดินทางมาร่วมรับประทานอาหารวันนี้ด้วย ว่า ไม่ได้กระทบหรือส่งผลต่อการหารือในวันนี้ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัสได้แจ้งนายพิเชษฐว่าติดภารกิจที่ประเทศสิงคโปร์
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าข้อมูลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะทำให้ ร.อ.ธรรมนัสหันมาสนับสนุนฝ่ายค้านในการลงมติครั้งนี้ด้วยหรือไม่ นายยุทธพงศ์กล่าวว่า การเป็น ส.ส.ต้องฟังเสียงประชาชน และขณะนี้ประชาชนได้แสดงออกให้เห็นแล้วว่าต้องการอย่างไร เหมือนคำพูดที่พูดกันตลอดว่า คนต่างจังหวัดตั้งรัฐบาล แต่คนกรุงเทพฯเป็นคนล้มรัฐบาล