เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของน้องแตงโม ภัทรธิดา (นิดา) ได้อนุญาตให้สื่อมวลชนเดินทางเข้าไปเก็บภาพ ที่โซนกัลปังหา ช่องหมายเลข 9 บริเวณอาคารกตเวทิตา ระเบียงอาลัย ซึ่งเป็นจุดที่คุณแม่น้ำอัฐิของน้องแตงโมส่วนหนึ่งไปเก็บไว้ โดยกระดูกของน้องแตงโมงได้แบ่งไว้ทั้งหมด 3 ส่วน ส่วนแรกคุณแม่เก็บไว้
ส่วนที่สองได้มอบให้เบิร์ด เพราะเบิร์ดโทรมาขอแม่ แล้วเมื่อที่ 27 พฤษภาคม ได้นำดอกไม้มาไว้อาลัยกับแตงโมแล้ว ส่วนที่ 3 ได้เก็บไว้ที่คริสตจักรข้างที่เก็บอัฐิของคุณพ่อน้องแตงโม พิธีการบรรจุอัฐิของน้องแตงโมจัดขั้นที่บริเวณชั้น 2 โดยครอบครัวไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนขึ้นไปเก็บภาพ เพราะครอบครัวต้องการความเป็นส่วนตัว ส่วนแผ่นป้ายที่บริเวณช่องเก็บอัฐิจะมีการสลักชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด และวันที่เสียชีวิต จะสลักไว้ว่า อยู่กับพระเจ้า พร้อมข้อความด้านล่างว่า “ดังนั้นยังตั้งอยู่สามสิ่ง คือความเชื่อ ความหวังใจ และความรัก แด่ความรักใหญ่ที่สุด”
เวลา 16.00 น. นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของน้องแตงโม ภัทรธิดา (นิดา) เดินทางลงมาจากด้านบน พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า การทำพิธีทางศาสนาคริสต์ ก็มีอาจารย์สวด 1 รอบ ก่อนจะมีอาจารย์ให้ร้องเพลง 2 เพลง เพลงแรกชื่อเพลงพักพิงในพระเจ้า โดยเนื้อหาภายในเพลงเป็นการให้กำลังใจคนที่อยู่ เพลงที่สองชื่อขอพระเจ้าอยู่ด้วยจนเจอกันอีก ความหมายเป็นการเชื่อว่าเราจะได้เจอแตงโมอีกบนสวรรค์ แต่ไม่ใช่บนดิน จากนั้นก็สวดอีกรอบ ก่อนที่จะมีพิธีปิดศิลาที่ช่องอัฐิน้องโม โดยทุกอย่างคุณแม่เป็นคนเลือก แล้วถ้าใครคิดถึงโม ก็มาหาน้องโมได้ทุกวันที่นี่ ส่วนแม่ถ้าคิดถึงก็จะมาหาน้องที่นี่ ส่วนอัฐิก็จะเอาเก็บไว้ที่แม่และแบ่งไปให้เบิร์ดด้วยเพราะเบิร์ดได้ขอแม่มา โดยการทำพิธี คุณแม่ได้ร้องเพลงไปด้วยพร้อมกับร้องไห้ โดยตอนที่ทำพิธีปิดศิลาช่องอัฐิก่อนที่จะปิดแม่เอามือไปจับในโถของโมขึ้น พร้อมบอกว่าขอให้โมไปอยู่บนสวรรค์ ขอให้โมมีความสุข ขอให้โมมาเยี่ยมแม่บ้าง โดยความรู้สึกตอนนี้หัวใจของแม่อยู่ที่โถกระดูกของโม เมื่อวันที่เผาแม่ได้เห็นน้องในสภาพเป็นปกติ ไม่เหมือนตอนที่เจอในน้ำ น้องปกติสวยงามมาก อันนี้เป็นภาพจำที่สวยแล้วสำหรับแม่ ส่วนการเดินหน้าทางคดี แม่ก็จะเดินหน้าเต็มที่ โดยแม่จะให้ทีมทนาย ส.ส.เต้ เดินหน้าทางคดี การที่แม่มาอยู่กับทาง ส.ส.เต้ ก็รู็สึกดี สบายใจ และทุกอย่างต้องร่วมมือกัน เรื่องคดีในตอนนี้คุณแม่คิดว่าเรามาถูกทางแล้ว เพราะเราได้ผู้นำทีมที่ดี ฉลาด อารมณ์ดี สูง ไม่พูดมาก และทำงานเร็ว แถมยังพูดเก่งด้วย
ส่วนเรื่องคดีครอบครัวทางคุณพ่อของโมก็มีการพูดคุยกันและให้แม่ดำเนินการ โดยเห็นชอบกับแม่ด้วย ส่วนเรื่องโทรศัพท์ที่มอบให้บังแจ็คไป บังแจ็ครับปากแม่แล้วว่าหยุด โดยบังแจ็คก็หยุดโพสต์มาแล้วเป็นอาทิตย์ ตอนนี้ก็จะมีเพจปลอมออกมา โดยทางบังแจ็คกำลังจะส่งมือถือที่กู้ข้อมูลมาแล้ว ก็จะสามารถนำส่งกลับคืนมา แต่ไม่ได้ส่งให้แม่ ให้ส่งไปให้กับบุคคลที่ไว้ใจได้ก่อน เพราะแม่กลัวได้รับอันตราย และกลัวโทรศัพท์หาย ส่วนประวัติของบังแจ็คคุณแม่ก็เคยเห็นในอินเตอร์เน็ต แต่ของพวกนี้เราต้องได้สัมผัสก่อนถึงจะรู้ แต่ตอนแรกแม่ก็ไม่ชอบบังแจ็ค แต่บังแจ็คได้มีการโทรมาหลายครั้งจนมีนักข่าวคนหนึ่งบอกว่ารับหน่อย บังแจ็คมีอะไรจะคุยด้วยเรื่องน้องแตงโม คุณแม่จึงรับ และได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องแตงโม ส่วนเรื่องการเรียกเงินยืนยันไม่มีใครเรียกใคร แม่ก็ไม่ได้เรียกเงิน ส่วนบังแจ็คก็ไม่ได้เรียกเงินแม่ แต่ต้องการช่วยเท่านั้น ส่วนเรื่องไม่ดีของบังแจ็คตั้งแต่แม่สัมผัสเขาก็เป็นคนดีนะ จะช่วยเหลือใครเขาช่วยเต็มที่ ยังเคยเอ่ยปากบอกแม่เลยว่าแม่มีเงินไหม เดี๋ยวผมโอนเงินช่วย แม่บอกแม่มี แม่ไม่เอา เขาก็ยังบอกว่าจะเอาที่ดินผมไหม เดี๋ยวผมยกให้ ให้แม่ไปทำอะไรก็ได้ แม่ก็บอกว่าไม่เอา โดยบังแจ็คก็บอกคุณแม่หลายเรื่องเกี่ยวกับเรื่องน้องแตงโม โดยคุณแม่ไว้ใจในระดับหนึ่ง เพราะเป็นคนคอยช่วยเหลือและกู้ข้อมูล โดยแม่คุยกับบังแจ็คล่าสุดคือเมื่อตอนตี 4 ที่ผ่านมา ถามถึงเรื่องสารทุกข์สุกดิบ ก็เลยบอกว่าไม่ต้องโพสต์แล้วนะ บังแจ็คก็รับปาก พร้อมบอกว่าไม่ได้โพสต์แล้ว โดยยังพูดถึงเรื่องคนไทยที่อยู่ที่นั่น ไปถ่ายรูป ถ่ายบ้าน การใช้ชีวิตประจำวันเขา โดยแม่ไว้ใจบังแจ็คว่าจะไม่มีการแบล๊กเมล์แน่นอน โดยการนำโทรศัพท์ไปกู้ข้อมูลนั้นต้องมีประโยชน์ และจะนำไปเป็นหลักฐาน ส่วนเรื่องโมจะถูกฆาตกรรมไหม แม่ขอไม่ตอบแต่ยืนยันว่าน้องโมไม่ได้เสียชีวิตในน้ำ แต่เสียชีวิตบนบก โดยโมถ่ายรูปมาทุกอย่างเพื่อเป็นหลักฐาน โดยถ่ายทั้งถนน ทางเดิน หรือทุกอย่างที่คิดว่าเป็นหลักฐานได้ โดยโมคิดว่าตนเองจะไม่รอดจึงได้สร้างหลักฐานไว้ ส่วนปอและโรเบิร์ดก็ยังเหมือนเดิม แต่ไม่ได้คุยเรื่องคดีกับทั้งสองเลย โดยแม่ไม่คุยเรื่องคดีเพราะแม่กลัวใช้คำพลาด แต่ความรู้สึกที่คุณแม่มีต่อบังแจ็ค ปอ หรือโรเบิร์ด ก็ยังเหมือนเดิม ส่วนข้อมูลนั้นบังแจ็คก็กู้ข้อมูลขึ้นมาได้ทั้งหมดแล้ว แม่คิดว่าเป็นการถูกฆาตกรรม ส่วนนายอัจฉริยะ คุณแม่ก็พึ่งได้คุยเมื่อวาน ซึ่งอยากคุยนานแล้วแต่มีคนห้ามไม่ให้โทร ก็พึ่งจะได้โทรเมื่อวาน ก็คุยกันยาวเลย
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ กล่าวว่า คือจะพูดว่าใครก็ตามที่ดูคนอื่นเป็นมิจฉาชีพ ดูตัวเองหรือยัง โดยบังแจ็คเป็นคนที่กู้ข้อมูลและมาทราบเหตุผลว่าไม่มีใครกู้ข้อมูลให้แม่ โดยแม่บอกว่าให้บังแจ็คเป็นคนกู้ เป็นผู้ตรวจวัตถุพยาน โดยเราจะต้องปกป้องเขา โดยระยะเวลาปีกว่า ทางศาลก็รับฟังทั้งหมด ยังไม่มีคำวินิจฉัยถึงที่สุด และคดีส่วนใหญ่ก็หมดอายุความไปแล้ว ถ้ามาเป็นผู้ตรวจสอบวัตถุพยานในชั้นศาล เดี๋ยวผมประกันตัวให้และพร้อมที่จะดูแล ก็ยังไม่จำเป็นต้องรีบมา ให้ศาลเรียกพยานก่อนถึงจะค่อยมา ตนเองจำเป็นต้องดูแลเขาในศาลชั้นต้นก่อน ทางทนายเดชาเวลาพูดให้คิดนิดหนึ่ง เพราะน้องเขาเสียไปแล้ว ซึ่งแม่เขาก็เตือนมาแล้ว 2 รอบ วันนี้เป็นการเตือนเป็นวันสุดท้ายแล้ว อย่าทำให้ไปไกลกว่านี้เลย ขอสื่อให้ความเป็นกลางหน่อย คนบนเรือ หรืออาจจะไม่ใช่ก็ได้นะ ให้คนอื่นติดต่อมาว่าจะเอาเงินมาวางไว้ที่บ้าน 15 ล้าน แต่ตอนนี้คงคิดว่าไม่น่าพอ ตนเองอยากบอกว่า ถ้าคนบนเรือจะมาเคลียร์กับผม ถ้ามีถึง 5,000 ล้าน ค่อยมาคุยกัน ส่วนโพสต์ที่ลบไปเมื่อเช้า ที่ลบไปนั้นมีคำว่าสื่อมวลชนด้วย ซึ่งทางทีมทนายบอกว่าสื่อมวลชนเป็นพวกเรา เป็นพยานให้เรา จึงได้ลบออก ส่วนโพสต์ที่ลบก็อยากโพสต์เพื่อเตือน แล้วก็ลบไป ที่ลบเพราะถือว่าเตือนแล้ว อยากให้ทุกคนเข้ามาช่วยกัน ใครจะมาช่วยตนเองก็พร้อมรับ โดยการส่งคืนมือถือของบังแจ็คกลับมานั้นไม่สามารถระบุได้ว่าส่งไปที่ไหน อย่างไร เพราะเป็นวัตถุพยานสำคัญ แล้วอีกอย่าง เพจเฟซบุ๊กซีเอสไอ แอลเอ ที่มีการไปถ่ายรูปเปิดเผยที่อยู่ที่พักของบังแจ็คนั้น บังแจ็คได้ไปแจ้งความไว้ที่อเมริกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว