นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีความผิดของสงฆ์ ว่า ต้องพิจารณาโดยคณะสงฆ์ ซึ่งได้กำหนดไว้ในกฏ มส.ว่าด้วยการลงนิคหกรรม ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ มิใช่หน้าที่ของฆราวาสในการตัดสินหรือชี้ผิดชี้ถูก ทุกอย่างมีกระบวนการและวิธีการ ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบในการตรวจสอบและตัดวิน
นายสิปป์บวร ยืนยันว่า ที่ผ่านมาเมื่อเกิดเหตุการณ์พระภิกษุสงฆ์ประพฤติไม่เหมาะสม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ดำเนินการร่วมกับเจ้าคณะปกครองสงฆ์ ตามกระบวนการขั้นตอนอย่างเคร่งครัด ซึ่งเรื่องของพุทธศาสนาเรื่องของพระภิกษุสงฆ์ เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความรอบคอบความละเอียดอ่อน เพราะกระทบต่อความรู้สึกของพุทธศาสนิกชน จึงไม่ปรากฏเป็นข่าวเหมือนกับข่าวของประชาชนทั่วไป พร้อมย้ำว่า พุทธศาสนิกชนต้องให้ความเคารพพระภิกษุสงฆ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของพุทธศาสนา และต้องช่วยกันส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้เจริญมั่นคง ร่วมกันปกป้องพระพุทธศาสนา อย่าถือวิสาสะหรือเอาความคิดของตนเป็นที่ตั้ง จนเข้าไปก้าวล่วงอำนาจของคณะปกครองสงฆ์ ตั้งตนอยู่เหนือกฎหมาย จนทำให้ประชาชนและสังคมเกิดความสับสน
“มาตรการและกลไลต่างๆ ในการปกป้องพระพุทธศาสนามีประสิทธิภาพ ประชาชนเชื่อมั่นได้ ขออย่าได้กังวล หากพบเห็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมส่งผลกระทบต่อพระพุทธศาสนาของพระภิกษุ บุคคล กลุ่มบุคคล ขอได้แจ้งมายังสำนักงานพระพุทธศาสนา ผ่านสายด่วน 1374 อย่าดำเนินการเองโดยพละการ เพราะอาจเข้าข่ายการกระทำความผิดกฎหมายบ้านเมืองได้ ระเบียบกฎหมายกำหนดชัดเจน ว่ามิใช่หน้าที่ของประชาชนในการดำเนินการในเรื่องดังกล่าว พุทธศาสนิกชนจึงควรให้ความเคารพต่อพระภิกษุสงฆ์” นายสิปป์บวร กล่าว