วันนี้ (2 มิ.ย.) เวลา 17.10 น. น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า แม้ในกรอบปีงบประมาณปี 2566 มีการจัดสรรงบประมาณเกี่ยวกับสถาบันพรมหากษัตริย์ วงเงินประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งลดลงจากปี 2565 ประมาณ 9.4 เปอร์เซ็นต์ ที่มีการจัดสรรงบประมาณให้สถาบัน ประมาณ 3.3 หมื่นล้านบาท แต่เมื่อไปดูการขอรับงบในปีนี้ ในหน่วยงานส่วนต่างๆ พบการจัดสรรงบประมาณที่เกี่ยวกับ การพิทักษ์เทิดทูนสถาบัน 660 ล้านบาท ถวายความปลอดภัย 4,933 ล้านบาท ส่วนราชการในพระองค์ 8,612 ล้านบาท โครงการในพระราชดำริ 13,538 ล้านบาท และส่วนอื่นๆ อีก 2,799 ล้านบาท อย่างไรก็ดี ในส่วนของโครงการในพระราชดำรินั้น บางโครงการไม่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในช่วงเวลาปัจจุบัน เช่น โครงการพระราชดำริห้วยโสมง จ.ปราจีนบุรี ที่ใช้งบประมาณกว่า 1 หมื่นล้านบาท และมีการก่อสร้างมาแล้วกว่า 10 ปี ยังไม่แล้วเสร็จ นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทย ยังส่งหนังสือไปถึง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกว่า 7 หมื่นแห่ง ให้จัดงานเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระราชินี ในวันที่ 3 มิ.ย. หากแต่ละแห่งใช้เงินจัดงานเพียงที่ละ 1 หมื่นบาท เท่ากับว่า จะต้องใช้งบประมาณกว่า 80 ล้านบาท ในการจัดงาน รัฐบาลไม่ควรจัดทำโครงการแบบเหวี่ยงแห ให้เป็นเบี้ยแตกเช่นนี้
น.ส.เบญจา กล่าวว่า ในชั้นกรรมาธิการวิสามัญ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2566 ขอเรียกร้องให้ส่งตัวแทน หรือผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจง ส่วนราชการในพระองค์ที่ขอรับงบกว่า 8 พันล้านบาทนั้น นำไปใช้ในส่วนใดบ้าง เพราะในเอกสารขอรับงบประมาณ เขียนมาเพียงไม่กี่บรรทัด ไม่ได้ระบุรายละเอียดชัดเจน ทั้งนี้ หากมีการชี้แจง จะทำให้เกิดผลดีต่อภาพลักษณ์ในพระเกียรติของสถาบัน
น.ส.เบญจา กล่าวอีกว่า การอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ เมื่อปี พ.ศ. 2565 หลังอภิปรายจบ ตนถูกร้องเรียนว่า การอภิปรายในเรื่องดังกล่าว เข้าข่ายเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในครั้งนี้ จึงขอเรียกร้องให้ ประธานสภา วินิจฉัยว่า ส.ส.มีเอกสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญในการอภิปรายงบประมาณในทุกหน่วยงานที่ขอรับงบประมาณได้หรือไม่ หรือมีการห้ามไม่ให้อภิปรายบางหน่วยงานหรือไม่
โดย นายสุชาติ ชี้แจงว่า เราอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ การประชุมสภาก็อยู่ภายใต้ข้อบังคับ เราได้ปฏิบัติตามข้อบังคับ
ต่อมา พล.อ.อนุพงษ์ ได้ชี้แจงกรณีกระทรวงมหาดไทย ส่งหนังสือไปยังองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น จัดงานเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระราชินี วันที่ 3 มิ.ย.ว่า ในวาระอันเป็นมงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ทางกระทรวงได้แจ้งไปยังหน่วยงานส่วนท้องถิ่นจัดงานตามความเหมาะสม เพราะต้องการให้ประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้มาร่วมงาน ทำบุญตักบาตร ทำสาธารณกุศล การจัดงานไม่ได้ใช้งบประมาณมากมาย เมื่อดูในกิจกรรมแล้ว ก็เป็นประโยชน์กับประชาชน เพราะมีกิจกรรมการทำสาธารณกุศล การปลูกต้นไม้ การทำความสะอาด ซึ่งเป็นกุศโลบายให้ประชาชนได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน ส่งเสริมความสามัคคี ไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะเป็นภาระด้านงบประมาณ