เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 65 พรรคเพื่อไทย จัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย เพื่อชาวนา ที่ปราสาทศรีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ เนื่องในวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ 5 มิถุนายน 2565 โดยตามกำหนดการเดิมประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร จะมาลงพื้นที่พร้อมกับ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้าน แต่เนื่องจาก นางสาวแพทองธาร ติดโควิด-19 หลังเดินทางกลับจากพบอดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ประเทศสิงคโปร์ จึงส่งนายพานทองแท้ ชินวัตร พี่ชายมาลงพื้นที่แทน ซึ่งถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกกับครอบครัวเพื่อไทย
โดยนายพานทองแท้ เปิดเผยว่า ไม่ได้มาเป็นตัวแทนนางสาวแพทองธาร แต่ตั้งใจมาลงพื้นที่ด้วยอยู่แล้ว ในฐานะสมาชิกพรรคคนหนึ่ง ซึ่งหลังจากนี้หากนางสาวแพทองธารหายป่วยจะลงพื้นที่พบประชาชนทันที ซึ่งตนก็จะร่วมลงพื้นที่กับครอบครัวเพื่อไทยด้วยเช่นกัน
ด้านนายแพทย์ชลน่าน กล่าวถึงการลงพื้นที่ในวันนี้ว่า เป็นการจัดกิจกรรมครั้งที่ 3 ที่มาลงพื้นที่ในต่างจังหวัด เสียดายที่หัวหน้าครอบครัวติด โควิด-19 ไม่ได้ร่วมลงพื้นที่ด้วย จึงได้รับโอกาสจากนายพานทองแท้ ซึ่งจะทำหน้าที่แทนหัวหน้าครอบครัวในฐานะสมาชิกพรรคคนหนึ่ง
สำหรับการลงพื้นที่พบประชาชนที่ปราสาทศรีขรภูมิซึ่งเป็นพื้นที่ของนายครูมานิตย์ เป็นการมารับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่ ส่วนในช่วงบ่ายจะมีกิจกรรมที่รับสมัครสมาชิกครอบครัวเพื่อไทยเพื่อร่วมกันแก้ปัญหาเพื่อร่วมแก้ปัญหาให้กับชาติบ้านเมืองและออกจากวิกฤตให้ได้ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ มีการจัดแสดงจุดเด่นของชาวสุรินทร์ทั้งผ้าไหม พันธุ์ข้าว ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะไปรับข้อเสนอจากเวทีนั้นด้วย
ส่วนการลงพื้นที่วันนี้เป็นการปูทางสำหรับการเลือกตั้งในสมัยหน้าหรือไม่นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า เราเป็นพรรคการเมืองต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด โดยเฉพาะโดยเฉพาะการสื่อสารกับประชาชน พร้อมบอกว่าไม่ใช่การเช็คเสียงหลังจากที่มีงูเห่าปรากฏในพรรคจากการโหวตรับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 66 เพราะเสียงที่เป็นงูเห่าก็ชัดเจนมานานแล้วเพียงแต่จะทำหน้าที่ของพรรคให้ดีที่สุด เพื่อให้คนสุรินทร์มั่นใจว่าอยู่กับพรรคเพื่อไทยจะออกจากวิกฤตได้
สำหรับแผนการลงพื้นที่อีสานใต้ติดกันสองสัปดาห์เป็นแผนที่จะยึดพื้นที่อีสานใต้คืนหรือไม่ นายแพทย์ชลน่านระบุว่า พรรคเพื่อไทยมียุทธศาสตร์แลนด์สไลด์อยู่แล้ว ทุกพื้นที่ทุกพื้นที่ที่สามารถดำเนินการได้เราจะทำกิจกรรมโดยเฉพาะพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ของพรรค ซึ่งอีสานใต้เป็นพื้นที่ที่มีการแข่งขันสูง พรรคเพื่อไทยก็มีโอกาสที่จะเสนอในมุมของพรรคให้ประชาชนได้เห็นความแตกต่าง
พร้อมยืนยันว่าไม่กังวลเรื่อง 7 ส.ส. ที่โหวตสวนมติพรรค เพราะทราบมานานแล้ว และพรรคเพื่อไทยก็มีการเตรียมความพร้อมหาคนแทนไว้หมดแล้ว ยืนยันไม่กระทบกับการเลือกตั้งสมัยหน้าและมองว่าการโหวตสวนมติพรรคในครั้งนี้อาจทำให้พรรคได้รับกระแสด้านบวกจากการที่ ส.ส. หลายคน ย้ายออกจากพรรคแล้วอธิบายกับประชาชนไม่ได้ว่าทำไมถึงไม่ยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรคเพื่อไทย ทำไมถึงทรยศเพื่อไทย ในขณะที่พรรคเพื่อไทยกำลังเป็นความหวังของประชาชน จะเป็นแรงผลักให้พรรคเพื่อไทยได้รับการสนับสนุนมากยิ่งขึ้น
ส่วนการตรวจสอบ ส.ส.ทั้ง 7 คนนั้น จะเป็นไปตามขั้นตอนของพรรค ซึ่งทั้ง 7 คนย้ายพรรคแน่นอน แต่พรรคมีตัวแทนอยู่แล้วและหากมีการเปิดตัวมั่นใจว่ามีของดีกว่าแน่นอน โดยจะมีการเปิดตัวเร็วๆนี้
ถามถึงในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ซึ่งเป็นเมืองหลวงของพรรคภูมิใจไทย ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่พรรคเพื่อไทยมีเป้าหมายจะจัดกิจกรรม แม้จะไม่จัดเป็นกิจกรรมใหญ่ สมาชิกพรรคก็มีการรณรงค์อยู่ตลอดเวลา ซึ่ง ส.ส.ที่รับผิดชอบก็มีการตั้งเป้าไว้ว่าจะได้ 20,000 เสียงต่อเขต ส่วนในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ตั้งเป้ากวาดเก้าอี้ ส.ส.ทั้ง 8 เขตของจังหวัด
ส่วนการแข่งขันกับพรรคภูมิใจไทยซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญในพื้นที่นายแพทย์ชนน่าน ยืนยันว่าในทางการเมืองต้องมีการแข่งขันกันอยู่แล้วแต่การตัดสินใจอยู่ที่ประชาชน