วันนี้ (13 มิ.ย. 65) 17:25 น. พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวที่บริเวณแยกดินแดงเกี่ยวกับการชุมนุมที่แยกดินแดงในวันนี้
พ.ต.อ.กฤษณะ ระบุว่า วันนี้มีการประกาศรวมตัวทำกิจกรรมที่แยกดินแดง ในเวลา 16:00 น. ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการจัดกำลังในการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่บริเวณโดยรอบ เพื่ออำนวยความสะดวกทางจราจร และดูแลความสงบในพื้นที่
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้ประกาศเตือนว่าการรวมกลุ่มนั้นมีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโควิด หรือการกระทำที่ก่อความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง ก็เข้าข่ายในการกระทำผิดต่อกฎหมายหลายบท อย่างเรื่องของการเผารถเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งขณะนี้สืบทราบตัวผู้กระทำผิดแล้ว 8 ราย ในจำนวนนี้มาพบพนักงานสอบสวน สน.ดินแดงแล้ว 3 ราย โดยผู้ก่อเหตุนั้นมีเยาวชนรวมอยู่ด้วย และจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมด
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ชุมนุมไม่พอใจการทำงานของตำรวจในการรักษาความสงบเรียบร้อย ยืนยันว่า ตำรวจปฏิบัติตามหน้าที่ ไม่ได้อยากให้มีความรุนแรงเกิดขึ้น และการชุมนุมในลักษณะนี้มีการใช้อาวุธและความรุนแรงเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น หากไม่มีสถานการณ์เช่นนี้ ตำรวจก็ไปดูแลป้องกันอาชญากรรมตามพื้นที่อื่นๆ ไม่จำเป็นต้องเข้ามาดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่นี้ จึงอยากร้องขอให้ผู้ชุมนุมยุติการใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ก่อน และให้กระบวนการทางการเมืองเป็นไปในระบบรัฐสภา
พ.ต.อ.กฤษณะ ยังระบุถึงกรณีในการปฏิบัติหน้าที่ที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บว่า มีได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่โดยหลักคิดแล้ว พยายามจะไม่เข้าไปปะทะกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ยกเว้นในกรณีที่ปล่อยไปแล้วจะไปเกิดเหตุลุกลามบานปลาย ก็จำเป็นที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ มันมีหลักการปฏิบัติหน้าที่ หลักการใช้กฎหมายอยู่แล้ว ซึ่งตนไม่เคยใช้คำว่าสลายการชุมนุม เพราะนี่ไม่ใช่การชุมนุม แต่เป็นการก่อเหตุความไม่สงบ และในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ ประเทศไทยไม่เคยใช้ พรบ.การชุมนุมในที่สาธารณะ เนื่องจากปัจจุบันอยู่ภายใต้การใช้ พรก.ฉุกเฉิน การชุมนุมทางการเมืองไม่สามารถทำได้อยู่แล้ว
“ท่านต้องเข้าใจสิทธิขั้นพื้นฐาน ท่านไม่สามารถชุมนุมทางการเมืองได้เลย การออกมาขว้างปาสิ่งของ ระเบิด หรือการตรวจยึดอุปกรณ์จากจุดสกัดมันคืออะไร หลายรายยอมรับด้วยซ้ำว่าเตรียมสิ่งของเหล่านี้มา เพื่อโยนใส่บ้านท่านนายกบ้างล่ะ เพื่อมาก่อเหตุความเดือดร้อนกับประชาชน ถ้าเราไม่ร่วมมือกันไม่ขับเคลื่อนไปข้างหน้า ประเทศคงลำบาก” พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว