นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปดูรายละเอียดเกี่ยวกับกฎหมายภาษีลาภลอย (Windfall tax) ที่กระทรวงการคลังได้เคยเสนอไปก่อนหน้านี้ แต่ถูกปัดตกไป แต่หากรัฐบาลมีความสนใจ ก็พร้อมจะหยิบมาดำเนินการได้ทันที
สำหรับภาษีลาภลอย คือ ภาษีที่เกิดจากรายได้ของที่ดิน ที่มีโครงการของรัฐตัดผ่านหรือภาครัฐกำลังพัฒนา เช่น การสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง หรือรถไฟฟ้ารางคู่ โครงการสร้างสนามบิน หรือเมกะโปรเจกต์ต่างๆของภาครัฐ ที่ส่งผลให้ที่ดินบริเวณนั้นๆ เกิดมูลค่าเพิ่มขึ้น ภาครัฐจึงเห็นว่า ส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นมานี้ เจ้าของที่ดินหรือผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่ได้ประโยชน์ จะต้องเสียภาษีชนิดนี้ให้รัฐ
นายกฤษฎา ยังกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมากระทรวงการคลังวางนโยบายปฏิรูปโครงสร้างภาษี ศึกษาแผนการดำเนินการในมิติต่าง ๆ รวมถึงการจัดเก็บภาษีใหม่ ๆ เตรียมพร้อมเอาไว้หมดแล้ว เมื่อถึงเวลาที่รัฐบาลต้องการใช้ ก็สามารถดำเนินการได้ ทันที ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นฐานรายได้ของรัฐบาล โดยภาษีใหม่ๆ ที่มีการดำเนินการไปแล้ว เช่น ภาษีอี-คอมเมิร์ซ และ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่แม้รายได้จะเข้าสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แต่ก็ถือว่า ช่วยลดภาระของรัฐบาลในการจัดสรรงบประมาณไปอุดหนุนให้กับท้องถิ่นได้ไม่น้อย
ส่วนการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท เป็นเวลา 2 เดือน จะสิ้นสุดในวันที่ 20 ก.ค. นี้นั้น กระทรวงคลังจะร่วมกับฝ่ายนโยบาย พิจารณาว่าต้องขยายเวลาต่อเพื่อพยุงราคาน้ำมันดีเซลที่แพงขึ้นหรือไม่ จำเป็นต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะเรื่องการคลัง โดยผลการจัดเก็บรายได้ของกระทรวงการคลังในช่วง 7 เดือน ของปีงบประมาณ 2565 (ต.ค. 64 – เม.ย. 65) ยังเกินกว่าเป้าหมายราว 4.5 หมื่นล้านบาท ส่วนแนวโน้มการจัดเก็บรายได้ของปีงบประมาณ 2565 ที่เหลือ ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ดังนั้นก็ต้องพิจารณาในส่วนนี้ด้วยว่า หากมีการลดภาษีดังกล่าวเพิ่มอีก จะส่งผลให้รายได้หายไปแค่ไหน