25 มิ.ย.2565 – นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เนื่องวันวันครบ 90 ปี 24 มิ.ย. 2475 เปลี่ยนแปลงการปกครอง โดยมีรายละเอียดดังนี้
เฉลิมฉลอง 90 ปี การอภิวัฒน์ 2475 อย่างมีความหวัง
90 ปีผ่านไป หลังการอภิวัฒน์สยาม 2475 แต่ดูเหมือนว่าเราจะยังเดินหน้าถอยหลังวนเวียนอู่ในวังวนรัฐประหาร หลายคนสิ้นหวัง ว่าชัยชนะคงไม่มีวันมาถึง วันที่อำนาจสูงสุดอยู่ในมือประชาชน คงเป็นเพียงฝันที่ไม่มีทางบรรลุ
แต่สำหรับผมแล้ว สถานการณ์ในปัจจุบันคือสถานการณ์ที่มีความหวังที่สุด
ตลอดเวลาที่ผ่านมาหลังฝ่ายปฏิปักษ์การอภิวัฒน์ชิงอำนาจกลับคืนมาจากคณะราษฎรได้อย่างเบ็ดเสร็จในปี 2500 มีความพยายามในการลบล้างความทรงจำเกี่ยวกับคณะราษฎรเกิดขึ้นตลอดเวลา และประสบความสำเร็จอย่างมาก ในการทำให้ผู้คนในยุคสมัยหนึ่ง ไม่มีภาพจำเกี่ยวกับการอภิวัฒน์ 2475 หลงเหลืออยู่เลย
ครั้งหนึ่งประเทศไทยมีวันที่ 24 มิถุนายน เป็นวันชาติ และต่อมาก็ถูกทำให้หายไป อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยที่ตั้งอยู่ตามหัวเมืองต่างจังหวัด ก็ถูกทำให้เป็นแค่วงเวียนแห่งหนึ่งในจังหวัด ที่คนในจังหวัดนั้นๆ ไม่รับรู้ด้วยซ้ำว่านั่นคืออนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการสถาปนารัฐธรรมนูญโดยคณะราษฎร และเมื่อไม่กี่ปีนี้เอง แม้แต่หมุดคณะราษฎร และอนุสาวรีย์ปราบกบฏที่แยกหลักสี่ ก็ได้ถูกทำให้หายไปด้วย
แต่สาเหตุที่ผมพูดว่าวันนี้คือวันที่เรามีความหวังที่สุด นั่นก็เพราะท่ามกลางความพยายามอย่างสุดความสามารถของชนชั้นนำอนุรักษ์นิยม ในการบิดเบือนและลบล้างความทรงจำเกี่ยวกับการอภิวัฒน์ 2475 แต่ในช่วง 2-3 ปีให้หลังนี้เอง คือช่วงเวลาที่ประวัติศาสตร์การอภิวัฒน์ 2475 ถูกรื้อฟื้นกลับขึ้นมามากที่สุด
ผู้คนในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะคนหนุ่มสาว ได้ทำให้การอภิวัฒน์ 2475 กลับมาเป็นประเด็นสาธารณะอีกครั้ง กลายเป็นประวัติศาสตร์ที่คนหนุ่มสาวมีความรู้สึกร่วมด้วยอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ในยุคสมัยนี้เองที่สำนักพิมพ์ที่ตีพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับการอภิวัฒน์ 2475 ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า หลายสำนักพิมพ์ทำกำไรได้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนจากการขายงานเขียนเกี่ยวกับการอภิวัฒน์ 2475
งานเฉลิมฉลองครบรอบ 90 ปีของการอภิวัฒน์ 2475 ที่จัดที่ลานคนเมืองวันนี้ก็เช่นกัน เป็นงานเฉลิมฉลองที่มีชีวิตชีวา เป็นการเฉลิมฉลองเหตุการณ์เมื่อ 90 ปีที่แล้วในรูปแบบที่ร่วมสมัย และเป็นการจัดงานโดยคนหนุ่มสาวเอง ที่ทำให้ความคิดของการอภิวัฒน์ 2475 เป็นความคิดที่ยังไม่ตาย เป็นความทรงจำยังที่ยังคงสดใส
แม้จะมีความพยายามลบล้างความทรงจำเกี่ยวกับ 2475 อย่างเต็มที่ แต่นั่นก็ไม่อาจหยุดยั้งคนหนุ่มสาว ที่เติบโตมาท่ามกลางผลพวงของการหมุนทวนเข็มนาฬิกาของชนชั้นนำอนุรักษ์นิยมให้ประเทศไทยย้อนกลับไปเป็นเผด็จการอีกครั้ง พร้อมกับตั้งคำถามขึ้นมาว่าสังคมไทยมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร และเริ่มแสวงหาข้อมูล จนได้รับรู้ถึงสิ่งที่เรียกว่าการอภิวัฒน์ 2475 อีกครั้ง
ด้วยเหตุนี้ ผมจึงมีความหวัง ว่าชัยชนะกำลังจะมาถึง อาจจะก่อนครบ 100 ปีอภิวัฒน์สยามก็เป็นได้
การเลือกตั้งในปี 2566 จะเป็นการเลือกตั้งที่เต็มไปด้วยความหวัง ในวันที่รัฐบาลสืบทอดอำนาจเสื่อมความนิยม กองทัพเสื่อมความชอบธรรม และประชาชนได้เห็นปัญหาแล้วว่ารัฐธรรมนูญ 2560 มีปัญหามากขนาดไหน
ข้อเสนอของผม คือภาคประชาสังคมจะต้องรณรงค์ร่วมกันอย่างแข็งขัน กดดันพรรคการเมืองทุกพรรค ให้พวกเขาต้องทำสัตยาบันร่วมกัน ให้เกิดการแก้รัฐธรรมนูญและการปฏิรูปกองทัพ ทำให้พวกเขาต้องตอบประชาชนให้ชัด ว่าพวกเขาจะยังคงสนับสนุนรัฐบาลสืบทอดอำนาจต่อไปหรือจะมายืนอยู่เคียงข้างประชาชน
ด้วยพลังกดดันที่มากพอ เงื่อนไขที่รัฐบาลสืบทอดอำนาจและชนชั้นนำอนุรักษ์นิยมวางไว้สกัดขัดขวาง จะไม่สามารถนำมาใช้ได้อีกต่อไป แม้แต่ ส.ว. ที่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจมาตลอดเวลาก็จะต้องยอมถอยให้กับเจตจำนงของประชาชน
นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งปี 2566 จะมีความชอบธรรมอย่างสูงในการเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญและการปฏิรูปกองทัพ กระบวนการนี้ต้องอาศัยเวลา แต่หากเริ่มเดินหน้าได้ในทันที ผมเชื่อว่าเราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญเกิดขึ้นก่อนจะถึงวันครบรอบ 100 ปีของการอภิวัฒน์ ในวันที่ 24 มิถุนายน 2575
ในวันนั้น เราจะได้เฉลิมฉลอง 100 ปีของการอภิวัฒน์ 2475 อย่างหฤหรรษ์