เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรค พท. กล่าวถึงสูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อหารด้วย 500 อาจทำให้พรรค พท.ไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเหมือนการเลือกตั้งในปี 2562 ว่า
ไม่น่าเหมือนเดิม แม้ว่าจะคำนวณแบบจัดสรรปันส่วนผสม มี ส.ส.พึงมี เอา ส.ส.เขตมาลบกับ ส.ส.พึงมี เพื่อให้ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อนั้น หากเราสู้ในนาม พท. และวันนี้ประชาชนคับแค้นมากในการบิดเบือน ทำลายล้างระบอบประชาธิปไตย เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองของผู้มีอำนาจ ซึ่งประชาชนจะสั่งสอน ดังนั้น พรรค พท.จะได้ประโยชน์มากกว่า 15 ล้านเสียง ขึ้นกับการสื่อสารกับประชาชน ซึ่งเราหวังถึง 18 ล้านเสียง
“ผมยังมั่นใจลึกๆ ว่าศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกาจะส่งข้อทักท้วงเป็นความเห็นมาว่า สิ่งที่รัฐสภามีมติแก้ไขตามมาตรา 128 ขัดกับมาตรา 91 ขณะที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุว่าไม่สามารถนำสู่การปฏิบัติได้ เพราะไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญก็เป็นหน้าที่ของรัฐสภาที่จะต้องกลับมาพิจารณาภายใน 30 วัน เพื่อแก้ไขให้สอดคล้องกับข้อทักท้วงนั้นตามสมควร หรือหากยังจะตะแบงต่อเพื่อเอาใจคนชอบหาร 500 ก็ได้ แต่ต้องคำนวณเป็นสัดส่วนทางตรง ทอนให้เป็น 100 ให้ได้โดยไม่เกี่ยวข้องกับเขต แบบนี้ถึงจะชอบด้วยรัฐธรรมนูญ” นพ.ชลน่าน กล่าว
เมื่อถามถึง ยุทธศาสตร์การแตกแบงก์พัน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดว่า ยุทธศาสตร์ขยายแบงก์พัน เพียงแต่บอกว่าถ้ากลไกกติกาบิดเบี้ยวแบบนี้ ภาคการเมืองย่อมมีวิธีการ ถ้า หากมีการตั้งพรรคมาใหม่เพื่อจะเอาคะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ถ้าทำได้จะได้เป็นกอบเป็นกำ เพราะไม่มี ส.ส.เขต เอาแค่ 2-3 พรรค หารจำนวน ส.ส.พึงมี นั่นคือจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อที่จะได้รับ เพราะไม่มี ส.ส.เขต
ดังนั้น สิ่งที่พรรคเล็กลืมคิดถ้าได้คะแนนต่ำกว่า 140,000 คะแนน จะไม่มีพรรคใดที่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเลย เป็นการฆ่าตัวเองทางอ้อมโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์