16 ก.ค.2565- นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ผู้ต้องหาคดีม.112 โพสต์เฟซบุ๊ก Piyabutr Saengkanokkul – ปิยบุตร แสงกนกกุล ตั้งหัวข้อว่า เราต่างมีโอกาสกลายเป็น “แผน” และ “บักเสี่ยว” โดยมีรายละเอียดดังนี้
ในภาพยนตร์เรื่อง “มนตร์รักทรานซิสเตอร์” ซึ่งนำมาจากนวนิยายของวัฒน์ วรรลยางกูร มีฉากหนึ่งที่ “แผน” และ “บักเสี่ยว” หลบหนีออกจากงานตัดอ้อยได้
“บักเสี่ยว” มีเรื่องทะเลาะกับเจ้าของไร่อ้อย “แผน” เข้าไปช่วย “บักเสี่ยว” จนเกิดการมะรุมมะตุ้มกัน
แผนและบักเสี่ยววิ่งหนีออกจากไร่อ้อย หลบขึ้นรถบรรทุกเข้าไปถึงในเมือง เร่ร่อน นอนข้างทาง คุ้ยหาของในขยะ
จนได้เข้าไปในงานเลี้ยงไฮโซที่ให้ผู้ร่วมงานแต่งชุดแฟนซี และจัดระดมทุนให้คนบริจาคทำบุญช่วยเหลือผู้ยากไร้
ด้วยสภาพการแต่งกายของแผนและบักเสี่ยว ที่มอมแมม สกปรก เสื้อขาด อันเนื่องมาจากการทำงานในไร่อ้อยและหลบหนีออกมา นอนข้างถนน ทำให้คนที่มาร่วมงานเลี้ยงเข้าใจว่าทั้งสองคือ แขกที่ได้รับเชิญมาร่วมงาน และเลือกแต่งแฟนซีสไตล์คนจน ไร้บ้าน
เมื่อเป็นเช่นนั้น แผนและบักเสี่ยวเลยทำเนียนอยู่ในงาน มีผู้รากมากดี ไฮโซ เข้ามาคุยกับเขามากมาย ยกยอปอปั้น แนะนำตัวตามประสางานปาร์ตี้ไฮโซ
ทั้งสองคนกินอาหารด้วยความหิวโหย
ในที่สุด พวกเขาก็ถูกจับได้ เลยโดนคนจัดงานหิ้วตัวโยนออกมา
จากเสียงอ่อนหวานแนะนำตัวโอภาปราศรัยตามสำเนียงผู้รากมากดี ของบรรดาแขกเหรื่อ ก็กลายเป็นเสียงก่นด่าสาปส่งใส่แผนและบักเสี่ยวแทน
จาก งานบุญให้ “คนรวย” สำลักความดีด้วยการช่วย “คนจน” ก็กลายเป็น งานบุญที่ให้ “คนรวย” ไล่ “คนจน” ออกจากงาน
…
เย็นวันที่ 15 ก.ค.กรุงเทพมหานครจัดฉาย “หนังกลางแปลง” ที่คลองเตย ตามแนวนโยบายการเปิดพื้นที่สาธารณะในกรุงเทพมหานครของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อให้คนกรุงเทพฯได้พักผ่อนหย่อนใจและได้เสพงานศิลปวัฒนธรรม
กำหนดการฉาย เป็นภาพยนตร์เรื่อง “มนต์รักทรานซิสเตอร์”
มีผู้กำกับ ดารานำชาย หญิง ร่วมสนทนา
ก่อนเริ่มงาน มีนักกิจกรรมถือลูกโป่งรูปวัฒน์ วรรลยางกูร พร้อมข้อความยกเลิก 112
พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้างาน
ส่วนในโลกออนไลน์ ความเห็นที่ปรากฏในไลฟ์ และรายงานข่าว มีคนมากมายบอกว่า…
พวกนี้ไม่รู้จักกาลเทศะ
ไม่รู้หรือไงว่าเขาฉายหนังไม่ใช่งานการเมือง
อยากรณรงค์ยกเลิก 112 ไปทำที่อื่น
บางคนไปไกลขนาดว่า เดี๋ยวผู้ว่าฯของเราจะเดือดร้อน
…
เราทุกคนต่างก็มีโอกาสกลายเป็นแผนและบักเสี่ยว.