วันนี้ ( 20 ส.ค .) นายณัฐนนท์ วิทยาประโคน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 (ผอ.สพป.บุรีรัมย์ เขต 2) พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารเรียนแบบ สปช.105/29 โรงเรียนวัดโคกเจริญ ต.จันดุม อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ หลังเกิดเหตุคนร้ายลอบจุดไฟเผา เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 19 ส.ค.65 ที่ผ่านมา โดยจุดที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดคือห้องเก็บวัสดุอุปกรณ์ซึ่งอยู่ด้านหลังอาคาร ซึ่งทั้งโครงสร้างอาคาร และอุปกรณ์ที่เก็บไว้ข้างในได้รับความเสียหายทั้งหมด ส่วนห้องเรียนชั้นประถมได้รับความเสียหายบางส่วน
นอกจากนั้นยังพบประตูห้องเรียนหลายห้อง มีลักษณะเหมือนถูกทุบทำลาย และงัดแงะหน้าต่าง ทั้งยังพบกุญแจสำหรับเปิดห้องเรียนแต่ละห้องกองอยู่ คาดว่าคนร้ายน่าจะเอากุญแจไปเปิดตามลิ้นชักของครู มีเงินจำนวน 500 บาท ของครูที่อยู่ในลิ้นชักหายไป และพบว่ากล้องวงจรปิดด้านหลังอาคารจำนวน 4 ตัว ถูกดันให้เปลี่ยนทิศหันขึ้นด้านบน ทำให้ไม่สามารถบันทึกภาพคนร้ายได้ อีกทั้งเซิร์ฟเวอร์ กล้องวงจรปิด จำนวน 2 ตัวถูกรื้อออกมาแล้วเอาไปเผานอกอาคารเรียนได้รับความเสียหายด้วย
นอกจากนี้ยังพบจดหมายที่เขียนใส่กระดาษจำนวน 2 แผ่น แผ่นแรกเขียนคำว่า “ผมต้องใช้เงิน ขอโทษครับ” อีกแผ่นหนึ่งเขียนคำว่า “ผมรักลุงตู่” ซึ่งเขียนด้วยสีเมจิทิ้งไว้ในห้อง ป.1 ด้วย คาดว่าน่าจะเป็นคนร้ายที่เขียนทิ้งเอาไว้ ซึ่งตำรวจได้เก็บไว้เป็นหลักฐานแล้ว
นายณัฐนนท์ วิทยาประโคน ผอ.สพป. เขต 2 ได้กล่าวภายหลัง ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายว่า เบื้องต้นได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปยัง สพฐ. และได้ทำเรื่องเสนอของบประมาณเร่งด่วนมาดำเนินการซ่อมแซม ทั้งระบบไฟ ห้องเรียน และบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ ซึ่งความเสียหายประมาณ 400,000 บาท เพื่อให้สามารถทำการเรียนการสอนได้อย่างปลอดภัย สำหรับอาคารที่ถูกไฟไหม้เป็นอาคาร สปช.105/29 ส่วนมากจะเสียหายบริเวณที่ต่อเติมด้านหลังเพื่อเก็บวัสดุอุปกรณ์ และระบบไฟฟ้า ส่วนห้องเรียนเสียหายบางส่วนแต่โชคดีที่วัสดุครุภัณฑ์ไม่ได้รับความเสียหาย ถือว่ายังเคราะห์ดีที่มีชาวบ้านเห็นควันไฟแล้วเข้ามาช่วยกันดับและแจ้ง จนท.เข้าสกัดเพลิงได้ทัน ไม่อย่างนั้นอาจลุกลามไหม้อาคารเรียนเสียหายมากกว่านี้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการสอบถามข้อมูลทั้ง ผอ.โรงเรียนและคณะครู ยืนยันว่าไม่ได้มีความขัดแย้ง หรือเรื่องการเมืองแต่อย่างใด ส่วนที่วันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตรวจพบมีกระดาษที่เขียนด้วยสีเมจิ นั้นก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ หรืออาจเป็นพฤติกรรมเลียนแบบสื่อโซเชียลฯหรือไม่ ก็ยังไม่ทราบจุดประสงค์ที่แน่ชัด ต้องรอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนหาข้อเท็จจริง และติดตามจับกุมคนที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี
อย่างไรก็ตามก็ได้กำชับให้ทุกโรงเรียนในสังกัดได้เพิ่มความเข้มงวดในการจัดเวรยามดูแล โรงเรียน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีก เพราะนอกจากจะสร้างความเสียหายแก่โรงเรียนแล้ว ยังกระทบต่อเด็กนักเรียนด้วย
ด้านนายปริด คองสกุล อายุ 65 ปี ชาวบ้านที่เห็นควันไฟ บอกว่า ช่วงประมาณตี 1 ได้ลุงขึ้นมาปัสสาวะที่รั้วหน้าบ้าน ก็ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด 3 ครั้งแล้วเห็นควันไฟพวยพุ่งขึ้นบริเวณโรงเรียน จึงได้ไปบอกกำนันแล้วปั่นจักรยานไปดู พบว่าไฟลุกไหม้บริเวณด้านหลังอาคารเรียน จึงได้เรียกชาวบ้านให้ไปช่วยดับ และกำนันโทรฯ แจ้ง จนท.ดับเพลิง ตอนแรกคิดว่าไฟไหม้ แต่พอมารู้ทีหลังมาเป็นการจุดไฟเผา รู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น อยากให้ตำรวจจับกุมตัวผู้ก่อเหตุให้ได้เร็ว ๆ
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างลงพื้นที่หาเบาะแส เพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินการ และสอบสวนเหตุจูงใจที่ก่อเหตุ ว่าทำเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์สิน หรือเจตนาอื่น