วันนี้ (5 ก.ย. 65) เวลา 10:15 น. นายสุทิน คลังแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ก่อนเปิดประชุมวิปฝ่ายค้าน ที่อาคารรัฐสภา
นายสุทิน กล่าวว่า ที่ประชุมจะหารือเรื่องวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันที่ 6-7 ก.ย. ของสัปดาห์นี้เป็นสำคัญ ซึ่งจะมีการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เสนอโดยหลายฝ่าย วันนี้วิปฝ่ายค้านจะหารือในเรื่องเนื้อหาสาระ ทิศทาง การจัดสรรเวลาและผู้อภิปราย รวมถึงประเด็นที่ควรจะต้องอภิปรายกัน
ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม มีทั้งหมด 5 ฉบับ ได้แก่ ร่างฯ แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 272 เสนอโดย รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 64,151 คน ร่างฯ แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 120 เสนอโดยนายวิรัช พันธุมะผล ส.ส. ภูมิใจไทย กับคณะ
ส่วนที่เสนอโดยพรรคเพื่อไทย มีทั้งหมด 3 ฉบับ ได้แก่
1. ร่างฯ แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 43 นายชลน่าน ศรีแก้ว กับคณะ เป็นผู้เสนอ
2. ร่างฯ เพิ่มมาตรา 25 วรรคห้า แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 29 เพิ่มมาตรา 29/1 แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 34 มาตรา 44 มาตรา 45 มาตรา 47 และมาตรา 48 นายชลน่าน ศรีแก้ว กับคณะ เป็นผู้เสนอ
3. ร่างฯ แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 159 วรรคหนึ่ง และมาตรา 170 วรรคสอง นายชลน่าน ศรีแก้ว กับคณะ เป็นผู้เสนอ ซึ่งเกี่ยวข้องกับที่มาของนายกรัฐมนตรีจากการเลือกโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น ตลอดจนการตัดอำนาจสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในการร่วมเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งสอดคล้องกับร่างฯ ที่เสนอโดย รศ.สมชัย และคณะ
ทั้งนี้ นายสุทิน ยังเปิดเผยว่า ในวาระการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 5 ฉบับนั้น จะเป็นการรวมพิจารณาและอภิปรายพร้อมกันทั้ง 5 ฉบับ และจะลงมติแยกกันทีละฉบับ โดยคาดว่าจะใช้เวลาประชุมถึงเวลา 24:00 น. ของทั้งวันที่ 6 ส.ค. และ 7 ส.ค.
นายสุทิน กล่าวถึงแนวโน้มการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า เคยเสนอกันมาหลายเที่ยวแล้ว แต่ที่ผ่านมาไม่สำเร็จ ซึ่งเราเชื่อว่ากาลเวลาที่ผ่านมา สมาชิกรัฐสภาโดยเฉพาะส่วนที่เห็นต่างนั้นจะได้ฟังเสียงประชาชนมากขึ้น และจะเห็นความจำเป็นที่จะต้องแก้ เราก็มีความหวังมากกว่าเดิม แม้จะล้มเหลวมาแต่เชื่อว่าเสียงประชาชนคงจะมีความหมายมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ส.ว. จะเห็นชอบกับการตัดอำนาจ ส.ว. ได้หรือไม่ นายสุทิน ตอบรับว่า พูดตามหลักแล้วมันก็ยาก ที่จะให้เขาตัดอำนาจตัวเอง แต่เขาอาจจะคิดได้ว่าจวนจะหมดวาระไปแล้ว อีกประการคือมี ส.ว. ไม่น้อยที่เห็นควรว่าตัดอำนาจข้อนี้ออก จากเหตุปัจจัยทั้งสถานการณ์และบริบท จึงจะมีความหวังมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่าการวินิจฉัยวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะมีผลต่อการอภิปรายหารือหรือไม่ นายสุทิน ตอบว่า มี ส่วนประเมินว่าคำวินิจฉัยออกมาเมื่อใด นายสุทิน ตอบว่า พูดยาก สุดจะคำนวณได้ แต่คาดว่าน่าจะภายในเดือน ก.ย. เพราะมีแค่ 2 มาตรา และด้วยปัญหาสังคม ประเด็นนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน เชื่อว่าศาลคงจะไม่ปล่อยให้ยืดเยื้อ