เมื่อเวลา 00.00 น.วันที่ 8 ก.ย. (เวลาประเทศไทย) ที่ คูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย แอปเปิล ได้จัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ด้วยธีมหลักคือ Far Out โดยมีผลิตภัณฑ์ที่ทำการเปิดตัวคือ iPhone 14 พร้อมกับนาฬิกา Apple Watch Ultra และ AirPods Pro 2 ซึ่งไฮไลท์ที่ทุกคนทั่วโลกจับจ้อง คือ การเปิดตัว iPhone 14 และ iPhone 14 Pro Max
Greg Joswiak รองประธานอาวุโสฝ่าย Worldwide Marketing ของ Apple กล่าวว่า เรากำลังมอบ iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max ที่ล้ำหน้ายิ่งกว่า iPhone รุ่นไหนๆ โดย iPhone 14 Pro มาพร้อมระบบกล้องที่ทำให้ผู้ใช้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้ทั่วไปหรือมือโปร สามารถถ่ายภาพและวิดีโอได้ดีที่สุด อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีสุดล้ำใหม่ๆ อย่างจอภาพแบบติดตลอดและ Dynamic Island ที่เป็นวิธีใหม่ในการโต้ตอบกับแจ้งเตือนและกิจกรรมต่างๆ ส่วนคุณสมบัติด้านความปลอดภัยสุดล้ำยังมอบความปลอดภัยที่เหนือระดับแก่ผู้ใช้ และหยิบยื่นความช่วยเหลือในเวลาที่ผู้ใช้ต้องการมากที่สุด และด้วยชิป A16 Bionic ที่ทรงพลังและประหยัดพลังงานจนเหลือเชื่อ ตลอดจนแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน ก็ยิ่งทำให้นี่คือ iPhone ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา
สำหรับ iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max ได้ดีไซน์แบบสแตนเลสสตีลเกรดเดียวกับที่ใช้ทำเครื่องมือศัลยกรรมและกระจกผิวด้านที่สวยงามใน 4 สีสวยงาม โดยมีให้เลือกระหว่างรุ่น 6.1 นิ้ว และ 6.7 นิ้ว ซึ่งทั้งสองรุ่นใช้จอภาพ Super Retina XDR ใหม่ พร้อม ProMotion ที่มีจอภาพแบบติดตลอดเป็นครั้งแรกบน iPhone ซึ่งเป็นจริงได้ด้วยอัตราการรีเฟรชที่ 1Hz ใหม่ สามารถแสดงเวลา วิดเจ็ต และกิจกรรมสดๆ ให้เหลือบมองได้ทุกเมื่อ และจอภาพยังมีระดับความสว่าง HDR สูงสุดเฉพาะจุดเทียบเท่ากับ Pro Display XDR และถือเป็นความสว่างสูงสุดเฉพาะจุดขณะอยู่กลางแจ้งที่มากที่สุดในสมาร์ทโฟน สูงสุด 2,000 นิต หรือสว่างกว่า iPhone 13 Pro ถึงสองเท่า
นอกจากนี้ยังมี Dynamic Island เพื่อแสดงผลการแจ้งเตือนและกิจกรรมต่างๆ ได้ ส่วนระบบกล้องถูกพัฒนาระดับโปร กล้องหลักเพิ่มความละเอียดเป็น 48 ล้านพิกเซล เป็นครั้งแรก และให้เซ็นเซอร์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้ประสิทธิภาพดีขึ้นสูงสุด 2 เท่า กล้องอัลตร้าไวด์ดีขึ้นสูงสุด 3 เท่า กล้องเทเลโฟโต้ดีขึ้นสูงสุด 2 เท่า ทำให้ผู้ใช้ทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้ทั่วไปหรือมือโปรก็ตาม สามารถถ่ายภาพและวิดีโอได้อย่างดีที่สุด ในระดับ 4k
ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone 14 ยังมีการตรวจจับการชนกันและ SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียม ที่ผสานส่วนประกอบแบบเฉพาะเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับซอฟต์แวร์ เพื่อให้สายอากาศสามารถเชื่อมต่อกับดาวเทียมได้โดยตรง โดยคุณสมบัติ SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียมจะพร้อมให้บริการแก่ผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาในเดือนพฤศจิกายน และให้บริการฟรีเป็นเวลา 2 ปี
ขณะที่ชิบได้ถูกพัฒนาเป็น ชิป A16 Bionic ใน iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max ซึ่งเร็วที่สุดที่เคยมีมา ซึ่งทำงานได้เร็วขึ้นสูงสุด 40% เมื่อเทียบกับคู่แข่ง และมาพร้อมระบบปฎิบัติการ iOS 16
สำหรับ iPhone 14 และ iPhone 14 Plus ที่ได้เปิดตัวในงาน มาในหน้าจอสองขนาด ได้แก่ 6.1 นิ้ว และ 6.7 นิ้ว โดยใช้ชิปเซ็ต A15 Bionic ที่มี GPU แบบ 5-core ส่วน การถ่ายภาพและวิดีโอ นั้น กล้องหลักความละเอียด 12MP ใหม่ ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ขึ้นและพิกเซลที่ใหญ่ขึ้น, กล้องหน้า TrueDepth ใหม่, กล้องอัลตร้าไวด์เพื่อการเก็บภาพในมุมที่กว้างยิ่งขึ้น และ Photonic Engine เพื่อประสิทธิภาพในสภาวะแสงน้อยที่เพิ่มขึ้น และมาพร้อม iOS 16 เช่นกัน
ทั้งนี้ iPhone 14 และ iPhone 14 Plus ที่ได้เปิดตัวในงาน มาในหน้าจอสองขนาด ได้แก่ 6.1 นิ้ว และ 6.7 นิ้ว โดยใช้ชิปเซ็ต A15 Bionic ที่มี GPU แบบ 5-core ส่วน การถ่ายภาพและวิดีโอ นั้น กล้องหลักความละเอียด 12MP ใหม่ ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ขึ้นและพิกเซลที่ใหญ่ขึ้น, กล้องหน้า TrueDepth ใหม่, กล้องอัลตร้าไวด์เพื่อการเก็บภาพในมุมที่กว้างยิ่งขึ้น และ Photonic Engine เพื่อประสิทธิภาพในสภาวะแสงน้อยที่เพิ่มขึ้น และมาพร้อม iOS 16 เช่นกัน
สำหรับ iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max มีให้เลือกทั้งสีม่วงเข้ม สีเงิน สีทอง และสีดำสเปซแบล็ค โดยมีความจุในการจัดเก็บข้อมูลให้เลือกทั้ง 128GB, 256GB, 512GB และ 1TB
ส่วน Phone 14 และ iPhone 14 Plus มีสีให้เลือก คือ สีมิดไนท์, สีฟ้า, สีสตาร์ไลท์, สีม่วง และรุ่น (PRODUCT)RED ในความจุ 128GB, 256GB และ 512GB
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องราคาและการวางจำหน่ายนั้นประเทศไทยได้ถูกจัดให้มาอยู่ในกลุ่มประเทศแรก ที่วางขาย iPhone รุ่นใหม่พร้อมกับหลายประเทศทั่วโลก โดยจะเปิดให้สั่งจองล่วงหน้า ตั้งแต่เวลา 19:00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ในวันศุกร์ที่ 9 ก.ย. และเปิดให้รับเครื่อง 16 ก.ย. แต่ในส่วนของ iPhone 14 Plus จะวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 7 ต.ค.
ราคาจำหน่ายมีดังนี้
Phone 14 ความจุรุ่น 128 GB ราคา 32,900 บาท รุ่น 256 GB ราคา 36,900 บาท และรุ่น 512 GB ราคา 45,900 บาท
iPhone 14 Plus ขาย 7 ต.ค. ความจุรุ่น 128 GB ราคา 37,900 บาท รุ่น 256 GB ราคา 41,900 บาท และ รุ่น512 GB ราคา 50,900 บาท
iPhone 14 Pro ความจุรุ่น 128 GB ราคา 41,900 บาท รุ่น 256 GB ราคา 45,900 บาท รุ่น 512 GB ราคา 54,900 บาท และ รุ่นความจุสูงสุด ที่ 1 TB ราคา 63,900 บาท
iPhone 14 Pro Max ความจุรุ่น 128 GB ราคา 44,900 บาท รุ่น 256 GB ราคา 48,900 บาท รุ่น 512 GB ราคา 57,900 บาท และ รุ่นความจุสูงสุด 1 TB ราคา 66,900 บาท