เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 12 กันยายน ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานด้านนโยบายปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานด้านการจัดการน้ำ พรรค พท. และอดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ เพราะผู้ใหญ่ในบ้านเมืองละเลยในเรื่องหลักการสำคัญไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำเป็นงานในระดับยุทธศาสตร์ ซึ่งหากผู้บริหารบ้านเมืองควบคุมน้ำได้ จะเป็นผู้นำที่มีความสามารถในการดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนได้ แต่ผู้บริหารยุคนี้ไม่คิดว่าเรื่องน้ำเป็นงานในระดับยุทธศาสตร์ และการดำเนินยุทธวิธีที่ผิดพลาด ไม่มีความสามารถบริหารจัดการน้ำให้มีที่อยู่ที่ไป น้ำจึงท่วม เช่น การควบคุมการเปิดปิดประตูระบายน้ำ บางแห่งไม่ควรปิด บางแห่งไม่ควรเปิด
นายปลอดประสพกล่าวต่อว่า การบริการจัดการน้ำตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ต้องทำทุกลุ่มน้ำ และต้องทำทุกจุด ทุกลุ่มน้ำ และการบริหารจัดการน้ำเป็นเรื่องในทางวิชาการหลายแขนงที่ต้องทำงานเชื่อมโยงกัน นอกจากนี้ หน่วยงานที่ทำงานเรื่องน้ำทั้งการบริหารจัดการน้ำและป้องกัน ควบคุม และช่วยเหลือประชาชนมีถึง 26 หน่วยงาน แต่การทำงานเป็นไปแบบต่างคนต่างทำ จึงไม่เคยเห็นนโยบายที่สอดคล้องกันในการแก้ไขปัญหาน้ำ อีกทั้งในขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงลานิญาที่ลมจากตะวันออก พัดมาทางภูมิภาคอินโดจีน ประกอบกับสภาวะโลกร้อน ทำให้น้ำทะเลมีอุณหภูมิสูง ฝนตกปริมาณมาก แต่รัฐบาลนี้บริหารประเทศเสมือนอยู่ในภาวะปกติ แทนที่จะบริหารแบบนิวนอร์มอล
ซึ่งการละเลยปัญหาข้างต้น ทำให้เกิดความผิดพลาด ดังนี้ 1.แผนบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ได้จัดทำแผนบริหารจัดการน้ำเป็นอย่างดีเยี่ยม โดยไม่ได้ใช้งบประมาณ และไม่ได้กระทำการที่สุ่มเสี่ยงต่อการขัดกับกฎหมาย นักวิชาการเข้ามาสนับสนุนแผนดังกล่าว แต่รัฐบาลไม่ทำต่อกลับเอาเงินงบประมาณ 1 แสนล้านบาทนำไปใช้แบบไม่เกิดประโยชน์ โดยงบประมาณ 1 แสนล้านบาทดังกล่าว รัฐบาลหลังการรัฐประหารนำเงินส่วนนี้ไปใช้แบบไม่เกิดประโยชน์ โดยการให้หน่วยงานด้านทหารขุดลอกคลอง แต่สุดท้ายที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติให้ยุติโครงการ เพราะเป็นการเสียงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์
นายปลอดประสพกล่าวต่อว่า รัฐบาลไม่ให้ความสำคัญเรื่องน้ำในระดับยุทธศาสตร์ ปล่อยปละละเลยให้มีการสร้างเขื่อนล้ำเข้ามาในลำน้ำ ซึ่งเป็นคลองหลัก เช่น คลองเปรมประชากร คลองลาดพร้าว น้ำจึงไม่มีที่ไป โดยแต่ละหน่วยงานไม่มีการบูรณาการทั้งกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมชลประทาน และ 5.การบริหารงานไม่โปร่งใสและล่าช้า
นายปลอดประสพกล่าวด้วยว่า ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าที่อาจจะมีการเลือกตั้ง หากพรรค พท.ชนะการเลือกตั้ง ตนจะเสนอให้รื้อถนนที่สร้างรอบแม่น้ำดังกล่าวออกเพื่อเปิดทางน้ำ ซึ่งความละเลยผิดพลาดสะท้อนถึงความไม่รู้เรื่องของการบริหารประเทศของรัฐบาลนี้
ในยามนี้ประชาชนเดือดร้อน พรรค พท.พร้อมจะช่วยเหลืออย่างน้อยคือข้อคิด ประสบการณ์ และบุคลากรเท่าที่เรามี ก็พร้อมเสนอแนะวิธีการจัดการน้ำท่วมตามหลักวิชาการ ไปยังรัฐบาลและผู้ว่าฯกทม. เพื่อให้การแก้ไขน้ำท่วมทำได้ดีกว่าเดิม คือ ผู้ว่าฯกทม.สามารถประสานขอความร่วมมือกับรัฐบาล โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีได้ เพื่อให้สั่งการหน่วยงานราชการทั้งหมด นำเครื่องสูบน้ำเข้ามายัง กทม.
และในส่วนของ กทม.ควรสำรวจพื้นที่ในการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เพื่อสูบน้ำจากคลองหลักลงแม่น้ำเจ้าพระยา ลงทะเล หรือลงไปแม่น้ำบางปะกง และเครื่องสูบน้ำขนาดเล็กความดันสูงของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่จัดซื้อที่มีหลายร้อยตัวควรนำเอาไปแจกจ่ายใช้ใน กทม. เพื่อสูบน้ำจากจุดท่วมที่ไม่มีที่ไป ให้ไปลงคลองใหญ่ ส่งต่อออกแม่น้ำเจ้าพระยา
นายปลอดประสพกล่าวต่อว่า ผู้ว่าฯกทม.ควรประกาศให้ กทม.เป็นพื้นที่ประสบอุทกภัยอย่างหนัก เพราะถือว่าเป็นพื้นที่ภายใต้สภาวะพิเศษ สามารถจัดซื้อเครื่องสูบน้ำจากต่างประเทศเพิ่มเติมที่สามารถขนส่งผ่านเครื่องบินมาได้ทันที อีกทั้งใครที่สั่งให้ปล่อยน้ำลงมาทุ่งรังสิต ขอให้หยุดทำทันที เพราะสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน และควรกระจายน้ำจากคลองรังสิตออกไป ส่วนน้ำระบายที่ไม่สามารถระบายได้ นอกเหนือจากปริมาณฝนที่ควบคุมไม่ได้ เพราะมีสิ่งก่อสร้างจำนวนมาก ต้องใช้เครื่องมือช่วย โดยเฉพาะเครื่องสูบน้ำ
ทั้งนี้ ปัจจุบันนี้มีคอนโดมีเนียมจำนวนมาก ทุกคอนโดต้องยกระดับบั๊มเปอร์ให้สูงขึ้นและทำให้ใหญ่ขึ้น ซึ่งรัฐบาลต้องใจใหญ่ ควรเปิดให้เอกชนปรับปรุงระบบระบายน้ำให้ดี สามารถเบิกค่าใช้จ่ายที่รัฐบาลเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งหากไม่ทำจะเกิดความสูญเสียที่ประเมินค่าไม่ได้ นอกจากนี้ ผู้ว่าฯกทม.ควรใช้ประโยชน์จากประตูระบายน้ำพระโขนง ซึ่งเป็นประตูระบายน้ำในฝั่งตะวันออกของ กทม. และใกล้กับทางออกของน้ำไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยา
“รัฐบาลนี้สืบทอดอำนาจมาจากการรัฐประหาร และคนใน ครม.ก็มีหลายคนสืบทอดอำนาจจากนักปฏิวัติ ฉีกรัฐธรรมนูญ ร่างกติกาใหม่ที่พิลึกแต่เรื่องน้ำ เปรียบเสมือนสายเลือดหล่อเลี้ยงชีวิต ความเป็นอยู่ของประชาชน ท่านปฏิวัติเรื่องการเมืองได้ แต่ปฏิวัติเรื่องน้ำไม่ได้” นายปลอดประสพกล่าว
ขณะที่ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรค พท. กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในเขตลาดกระบังประสบปัญหาหนักเช่นกัน เราส่งเสียงเพื่อให้รัฐบาลได้เตรียมการแก้ไขปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเครื่องสูบน้ำ เพราะลาดกระบังเป็นแอ่งกระทะ น้ำจึงไหลมารวมกัน จึงต้องใช้เครื่องสูบน้ำออกจากพื้นที่ ต้องใช้เครื่องผลักดันน้ำดันน้ำจากคลองประเวศบุรีรมย์ไปลงสมุทรปราการ หรือคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิตพร่องน้ำให้ทันสถานการณ์ แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้รับการตอบกลับจากรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เหตุที่ท่านยังนิ่งเฉย เพราะท่านยังไม่รู้ปัญหา หรือรู้แล้วแต่อยากปิดหูปิดตา ไม่อยากร่วมแก้ไขปัญหาก็ตาม แต่อยากเรียนให้รัฐบาลรีบแก้ไขปัญหาประชาชนโดยเร็วที่สุด