ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายกฟ้องคดี ‘สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์’ อดีตปธ.สภาฯ ยุค รบ.ยิ่งลักษณ์ พร้อม อุดมเดช รัตนเสถียร อดีต ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย กรณีมีพฤติการณ์สับเปลี่ยนร่างรัฐธรรมนูญ ในการแก้ไขที่มา ส.ว. เมื่อปี 2556 เนื่องจากเห็นว่าไม่มีเจตนา
แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษายกฟ้องคดี นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร (ยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) นายอุดมเดช รัตนเสถียร อดีต ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย กรณีมีพฤติการณ์สับเปลี่ยนร่างรัฐธรรมนูญ ในการแก้ไขที่มา ส.ว. เมื่อปี 2556
เนื่องจากเห็นว่าไม่มีเจตนา
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า เกี่ยวกับคดีนี้ สืบเนื่องจากที่ประชุมร่วมรัฐสภามีการพิจารณาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับประเด็นที่มาของ ส.ว. โดยมีประเด็นสำคัญคือให้ ส.ว. สามารถสมัครติดต่อกันได้เลย โดยไม่ต้องเว้นวรรคเป็นเวลา 2 ปี ซึ่งร่างนี้ถูกนำไปสลับแทนร่างเก่า และส่งไปให้ประธานรัฐสภา (นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ขณะนั้น) แต่นายสมศักดิ์ ไม่ได้ตรวจสอบร่างดังกล่าวว่าผ่านการลงนามของสมาชิกรัฐสภาหรือไม่ แต่สั่งให้เอาเข้าที่ประชุมเลย ผลก็คือวันที่ทำการโหวตมีกรณีการเสียบบัตรแทนกัน ส่วนนายอุดมเดช มีความผิดฐานสับเปลี่ยนร่างรัฐธรรมนูญ ตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 123/1
@ สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์
@ อุดมเดช รัตนเสถียร
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด ทางอาญาแก่นายสมศักดิ์ นายอุดมเดช ในช่วงเดือนตุลาคม 2562 และมีการส่งสำนวนให้กับอัยการสูงสุด (อสส.) ฟ้องร้องคดี อย่างไรก็ดี อสส. เห็นว่าสำนวนยังมีความไม่สมบูรณ์ จึงตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างฝ่ายอัยการและ ป.ป.ช. ก่อนที่ฝ่ายอัยการมีความเห็นไม่ควรสั่งฟ้องคดี ป.ป.ช.จึงดึงสำนวนดังกล่าวกลับมาฟ้องร้องคดีเอง ก่อนที่ ศาลฯ จะพิพากษายกฟ้องดังกล่าว