เซี่ยผิง บันทึกความงามแห่งยุค ๖๐ แห่งฮ่องกง
ข้าพเจ้าเองเคยหลายครั้งขอรับอยากเขียนถึงดาราอาวุโสเก่าๆ หลายๆท่านที่เสียชีวิตไปแล้ว วันนี้เปิดมาพบภาพของ เซี่ยผิง ดาราอาวุโสของทีวีบี ในวัยสาว เธอเป็นนางเอกภาพยนตร์ยุค ๖๐ ของฮ่องกง แต่สำหรับคอละครโทรทัศน์นั้นจะจดจำเธอได้จาะละครของทีวีบี และ บทบาท ย่าของโจวซิงฉือ ในเปาบุ้นจิ้นหน้าขาว (Hail the Judge ๑๙๙๔)
เซี่ยผิง เกิดที่ฮ่องกงเมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๑๙๓๗ เดิมชื่อคือ หลู่เส้าผิง เซี่ยผิงและครอบครัวย้ายไปอาศัยที่จีนแผ่นดินใหญ่ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและกลับมาที่ฮ่องกงหลังสงคราม ในปี ๑๙๕๕ เซี่ยผิงได้สมัครเป็นนักแสดงกับบริษัทภาพยนตร์ ในปี ๑๙๖๐ โดยผู้กำกับ อู๋หุ้ย เป็นคนตั้งชื่อในวงการให้เธอ เป็น เซี่ยผิง
เซี่ยผิง วนเวียนอยู่กับการแสดงภาพยนตร์จีนกวางตุ้งสิบปี จนปี ๑๙๗๐ เธอจึงย้ายมาเป็นนักแสดงประจำของทางชอว์บราเดอร์ ก่อนที่ในปี ๑๙๘๒ เซี่ยผิงจะย้ายมาเป็นนักแสดงวงการโทรทัศน์ กับทางทีวีบี และเกษียณในปี ๒๐๑๕
เซี่ยผิงนับว่ามีผลงาน ภาพยนตร์กว่า ๒๐๐ เรื่อง และ ละครโทรทัศน์กว่าร้อยเรื่อง เซี่ยผิงนับว่าเป็นนักแสดงอาวุโสที่คนฮ่องกงต่างคุ้นเคยและบรรดานักแสดงด้วยกันต่างให้ความเคารพ
ด้านชีวิตส่วนตัว เซี่ยผิงเคยแต่งงานมาแล้วสองครั้ง และได้ให้กำเนิดบุตรสาวและบุตรชายกับสามีคนแรก แต่เพียงสองปีก็หย่าร้างกัน สามีคนแรกจึงทำหน้าที่เลี้ยงดูบุตรสาวและบุตรชาย ในปี ๑๙๗๐ เซี่ยผิงแต่งงานอีกครั้งกับ จางหยุน นักแต่งเพลงและครูสอนร้องเพลงของเธอ แต่ในปี ๑๙๙๑ จางหยุนก็ป่วยและจากเธอไป ทำให้เซี่ยผิงต้องใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง แต่โชคยังดีที่เธอมีนักแสดงรุ่นน้องอย่าง หลินเจียต้ง และ จางกัวเฉียง(มู่หยงฝู แปดเทพอสูรมังกรฟ้า ๑๙๙๖) คอยดูแล ภายหลัง เซี่ยผิงรับหลินเจียต้ง เป็นบุตรบุญธรรม
เช้าวันอาทิตย์ที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๐๑๕ เซี่ยผิงประสบอุบัติเหตุหกล้มภายในบ้าน โดยปกติแล้ว เซี่ยผิงจะจ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดในวันธรรมดา เซี่ยผิงต้องนอนอยู่ในบ้านไม่สามารถขยับตัวได้ แต่โชคยังดีที่ แผนกดูแลศิลปินของทีวีบี ได้โทรมาหา และไม่สามารถติดต่อกับเซี่ยผิงได้ เธอจึงได้รับความช่วยเหลือ จากเพื่อนร่วมงานของทีวีบี ที่เรียกให้คนดูแลตึกมาตรวจสอบ และเรียกรถพยาบาลพาเธอไปรักษาดูแล
แต่เนื่องจากการอาศัยอยู่เพียงลำพัง ทำให้ทางหน่วยงานของฮ่องกงต้องจัดการให้เธออาศัยอยู่ในบ้านพักคนชรา แม้ว่าเซี่ยผิงจะคัดค้านเพราะต้องการอยู่บ้านมากกว่า แต่สุดท้ายเธอก็ต้องยินยอม และขอร้องทางตู้ฉีฟงให้จัดหาบ้านพักคนชราสมาคมศิษย์เก่าอี้จินให้แก่เธอ
เซี่ยผิงนั้นมีความสัมพันธ์ที่ห่างเหินมากกับลูกๆของเธอ โชคดีที่ได้ หลินเจียต้งมาคอยดูแล อาหารการกินและเสื้อผ้า สำหรับ หลินเจียต้งนั้น เซี่ยผิง เป็นเสมือนแม่คนที่สองของเขาจริงๆ เธอดูแลเขาตั้งแต่เขายังไม่มีชื่อเสียง คอยเป็นห่วงเป็นใยและคอยเอาใจใส่ดูแล และที่สำคัญ เซี่ยผิงเป็นคนที่ตลกมาก เธอมักจะพูดเรื่องตลกๆ ให้คนรอบๆตัวเธอมีรอยยิม แม้จนกระทั่งวาระสุดท้าย
ก่อนที่เซี่ยผิงจะเสียชีวิต ๑๐ วันสุดท้าย ทั้ง หลินเจียต้ง และ จางกัวเฉียง ได้สลับกันดูแลเธอ และเรียกลูกๆหลานๆของเซี่ยผิงมาส่งเธอเป็นวาระสุดท้าย ซึ่งเซี่ยผิงก็ได้จากไปอย่างสงบ ในวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๐๑๙ ด้วยวัย ๘๑ ปี
เมื่อกู่เทียนเล่อ ประธานสมาคมนักแสดงฮ่องกงทราบข่าว เขาก็กล่าวไว้อาลัยต่อเซี่ยผิงว่า “เซี่ยผิงนับว่าเป็นนักแสดงที่โดดเด่นที่สุดคนหนึ่งของฮ่องกง เธออยู่ในวงการภาพยนตร์ละครโทรทัศน์ยาวนานกว่า ๖๐ ปี การจากไปของเซี่ยผิงนับว่าเป็นอีกหนึ่งความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ของวงการบันเทิงฮ่องกง”
กู่เทียนเล่อได้แจ้งเจตจำนงค์ที่จะดูแลค่าใช้จ่ายในงานศพของเซี่ยผิง แต่ หลินเจียต้ง และ จางกัวเฉียง ปฏิเสธ พวกเขาขอดูแลงานศพให้กับ เซี่ยผิงเอง
จางกัวเฉียง เล่าถึงความทรงจำที่มีจ่อเซี่ยผิงว่า “เซี่ยผิง แสดงเป็นแม่ของผมมาหลายปี เธออายุมากและอยู่คนเดียว หลายครั้งหลังจากถ่ายละครเสร็จผมมักจะส่งเธอกลับบ้านเสมอ เธอเป็นคนตลกมากและมีความเป็นตัวของตัวเองสูง บางทีเธอก็พูดจาตรงๆกับผม ทำให้ผู้สึกๆได้ถึงความรักและห่วงใยที่เธอมีต่อผมจริงๆ เธอเป็นคนเดียวที่ทำให้ผมหัวเราะและร้องไห้ได้”
การจากไปของ เซี่ยผิง คนที่เสียใจที่สุด อีกคนก็คือ หลินเจียต้ง ผู้เป็นลูกบุญธรรมของเธอ หลินเจียต้งร้องไห้ตลอดงานศพของเซี่ยผิง เขาเล่าว่า เมื่อทราบข่าวว่าเซี่ยผิงป่วยหนัก เขาที่กำลังถ่ายทำภาพยนตร์ที่จีนแผ่นดินใหญ่ก็รีบกลับมาที่ฮ่องกงเพื่อพบหน้าเซี่ยผิงเป็นครั้งสุดท้าย
“คุณแม่ยังคงเป็นคนตลก เธอจากไปพร้อมกับรอยยิ้ม ผมรู้ว่าเธอเป็นคนกลัวไฟมาก ผมจึงไม่ฌาปนกิจ(เผา)เธอ ดังนั้นผมจึงจัดให้มีการฝังศพแทน” หลินเจียต้งกล่าวถึงวาระสุดท้ายของเซี่ยผิง
เซี่ยผิงนับว่าเป็นนักแสดงอาวุโสของฮ่องกงที่เชื่อว่า คอภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ต่างต้องเคยรับชมบทบาทการแสดงของเธอไม่มากก็น้อย แม้จะผ่านมากว่าสามปีหลังจากการเสียชีวิตของเซี่ยผิง ข้าพเจ้าก็ต้องขอไว้อาลัยย้อนหลัง และขอบคุณท่านสำหรับความสูขที่ท่านมอบให้แก่ผู้ชมจากการแสดงของท่านขอรับ
เก้ากระบี่ขออาลัย