“ธีระชัย” ติง แนวทาง “มิ่งขวัญ” เสนอลดราคาน้ำมันลงฮวบฮาบ ต้องเลิกเก็บภาษีทั้งหมด และเลิกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน แล้วใช้เงินรัฐบาลไปจ่ายอุดหนุน เป็นภาระหนี้ให้ลูกหลานต้องมาใช้คืนในวันหน้า และเสียวินัยการคลัง แต่กลับไม่แก้ไขโครงสร้างราคาพลังงานที่บิดเบือน และไม่ดึงเอากำไรส่วนเกินออกจากกระเป๋าเอกชนแม้แต่บาทเดียว
วันนี้ (5 เม.ย.) นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการนโยบายพรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Thirachai Phuvanatnaranubala – – ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เกี่ยวกับนโยบายด้านพลังงานของพรรคพลังประชารัฐ มีรายละเอียดระบุว่า
วิกฤตนโยบายน้ำมัน
ทีมเศรษฐกิจในพรรคพลังประชารัฐเห็นพ้องต้องกันว่า พรรคควรมีนโยบายลดราคาน้ำมัน เพื่อช่วยประชาชนสู้ปัญหาค่าครองชีพ
แต่มีการถกแถลงกันในพรรค ที่ยังไม่ลงตัว ขณะนี้ พรรคพลังประชารัฐจึงยังไม่ได้ประกาศนโยบายพลังงานอย่างเป็นทางการ
ในเรื่องราคาน้ำมันนั้น คุณมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ (กรรมการขับเคลื่อนนโยบายพรรคพลังประชารัฐ) ได้พูดคุยกับนักข่าว แสดงความเห็นส่วนตัวว่า สามารถลดราคาน้ำมันเบนซิน-95 ได้อย่างมโหฬาร ลิตรละ 18 บาท
การที่จะลดราคาน้ำมันได้ดังกล่าว ก็จะต้องเลิกเก็บภาษีทั้งหมด และเลิกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันด้วย
แต่ผมในฐานะที่เป็นอดีตรัฐมนตรีคลัง มีข้อท้วงติงเกี่ยวกับแนวคิดนี้
หนึ่ง เมื่อเลิกเก็บภาษีน้ำมัน ขณะที่กองทุนน้ำมันยังเป็นหนี้กว่าแสนล้าน ก็มีผลให้รัฐบาลต้องเอาหนี้สาธารณะไปจุนเจืออุดหนุนราคาน้ำมันให้ต่ำลง
การอุดหนุนโดยการใช้หนี้สาธารณะนั้น ไม่ใช่ของฟรี เพราะรัฐบาลในอนาคตจำเป็นต้องใช้คืนหนี้สาธารณะดังกล่าว
ดังนั้น การที่รัฐบาลเอาหนี้สาธารณะไปจุนเจืออุดหนุนราคาน้ำมัน ก็คือเอาเงินอนาคตของประชาชนที่เป็นลูกหลาน มาอุดหนุนราคาน้ำมันให้ประชาชนในปัจจุบัน
ประชาชนได้ประโยชน์ในวันนี้ แต่ลูกหลานไทยจะถูกเช็คบิลในวันหน้า และยังจะมีปัญหาด้านวินัยการเงินการคลังอีกด้วย
สอง รัฐบาลปัจจุบันผิดพลาดในเรื่องนโยบายก๊าซหุงต้ม ที่กำหนดราคาก๊าซหุงต้มที่ผลิตจากทรัพยากรในประเทศ กลับให้ครัวเรือนไทยจ่ายในราคานำเข้าจากประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยให้บวกค่าใช้จ่ายนำเข้าที่ไม่มีอยู่จริงอันย่อมเกิดเป็นผลกำไรให้กลุ่มทุนพลังงาน
เมื่อราคาก๊าซหุงต้มพุ่งสูงขึ้น ประชาชนเดือดร้อน รัฐบาลปัจจุบันก็แก้ปัญหาโดยใช้วิธีเก็บเงินจากคนใช้รถ เข้ากองทุนน้ำมัน แล้วเอาเงินนี้ไปอุดหนุนราคาก๊าซหุงต้ม
ดังนั้น ถ้ายกเลิกการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันโดยไม่ปรับปรุงแก้ไขโครงสร้างของธุรกิจก๊าซ ก็จะทำให้ราคาก๊าซหุงต้มของครัวเรือนสูงขึ้นอีกประมาณ 100 บาทต่อถัง
สาม การถล่มราคาเบนซิน-95 ลงไปอย่างหนักเช่นนี้ จะทำให้ตลาดบิดเบือน ผู้ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอลก็จะหันไปใช้เบนซิน-95 จะก่อปัญหาต่อดีมานด์สำหรับแอลกอฮอล์ที่ใช้ผสมน้ำมันแก๊สโซฮอล์
สี่ วิธีปรับปรุงนโยบายพลังงานที่เอาประชาชนเป็นศูนย์กลางนั้น จะต้องนำกำไรส่วนเกินจากกติกาที่ไม่เป็นธรรม ออกจากกระเป๋าของบริษัทเอกชน
ข้อเสนอของคุณมิ่งขวัญ มีแต่ใช้เงินจากกระเป๋าของรัฐบาลเพียงอย่างเดียว แต่ไม่เอากำไรส่วนเกินจากกระเป๋าของบริษัทเอกชน จึงอาจถูกพี่น้องประชาชนมองได้ว่า เป็นการออกนโยบายเพื่อช่วยปกป้องประโยชน์ของบริษัทเอกชน
ขณะนี้ก็มีคนลือกันเซ็งแซ่ ว่ามีกลุ่มทุนพลังงานเจาะเข้าไปในหลายพรรคการเมือง
ทั้งนี้ การออกนโยบายที่ไม่คำนึงถึงวินัยการเงินการคลัง ถึงแม้จะอ้างว่า ทำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ คิดจะทำเพียงชั่วคราวหนึ่งปี แต่กลับเป็นนโยบายที่ไม่แตะต้องผลประโยชน์ส่วนเกินของบริษัทเอกชนนั้น ผมในฐานะอดีตรัฐมนตรีคลังมีความรู้สึกกระอักกระอ่วน
และผู้ใดที่เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง ก็คงจะคิดเช่นเดียวกับผม
ผมจึงอยากเชิญชวนให้ผู้อ่านร่วมกันแสดงความเห็นว่า
– ท่านเรียกร้องนโยบายพลังงานที่เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง หรือ
– ท่านรับได้กับนโยบายที่เอาผลประโยชน์ของบริษัทธุรกิจเป็นที่ตั้ง