ยุทธการ D-DAYหรือ ยุทธการ นอร์มังดี

ยุทธการ D-DAY
หรือ ยุทธการ นอร์มังดี

WW – 2

เมื่อประเทศในโลก มีผู้นำ ที่มีความเห็น ต่างกันสุดขั้ว
ผู้นำที่ ต้องการแย่งชิงความเป็นเจ้าโลก
ผู้นำที่ต้องการแย่งชิงแหล่งทรัพยากรของชาติอื่นๆ อ้างว่า เพื่อให้ชาติของตนเองอยู่รอด
ผู้นำเหล่านี้ อ้างความชอบธรรม ต่อชนในชาติให้
ใช้ HARD POWER เข้าห้ำหั่นกัน

ฝ่ายซ้าย ยึดประเทศต่างๆในยุโรปได้เกือบหมด
ไปประชิดมหาอำนาจโลกคอมมิวนิสต์ด้านตะวันออก บุกตีไปจนถึงหัวใจ คือ เมืองเลนินกราด ถ้ายึดสำเร็จ แทบจะได้ครองโลก

ฝ่ายซ้าย โอบล้อมทหารฝ่ายขวา ด้านทิศตะวันตก ไปจนตรอก ไร้ที่กำบัง ไร้เสบียงอาหาร ริมชายหาด ของประเทศฝ่ายขวา ที่พ่ายแพ้ต่อฝ่ายซ้ายหมดรูป นับล้าน รอวันตาย จากฝูงบินทิ้งระเบิดของฝ่ายซ้าย
ทางรอดเดียวคือการเข้ามาช่วยทางทะเลจากประเทศมหาอำนาจที่อยู่บนเกาะ ฝั่งตรงข้าม ซึ่งทางเทคนิค ฝ่ายซ้ายประเมินแล้วว่า เป็นไปไม่ได้เลย

แต่ด้วยกลยุทธ อันชาญฉลาด ของ INTERPRID
หัวหน้าหน่วยราชการลับ และทีมงานสายลับนิรนาม จำนวนมาก ทำสงครามข่าวกรอง จนทำให้ฝ่ายซ้าย สับสน ตกหลุมพราง ไม่สามารถป้องกัน การยกพลขึ้นบก ในยุทธการ D-Day ของฝ่ายขวาที่รวมตัวกัน เป็นการยกพลขึ้นบกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ ชายหาด นอร์มังดีได้

ทำให้ฝ่ายขวา สามารถปลดปล่อย ทหารนับล้านที่ชายหาด นอร์มังดีและใกล้เคียง ขึ้นเรือไปตั้งหลักใหม่ได้สำเร็จ
แล้วรวมพลกลับมาโจมตีฝ่ายซ้าย ร่วมกับนักรบที่ยกพลขึ้นบกนำร่องมาก่อน
สามารถปลดปล่อย ประเทศฝ่ายขวาในยุโรปต่างๆ ทีละประเทศๆ สำเร็จ

รวมทั้งช่วยมหาอำนาจโลกคอมมิวนิสต์ ให้รอดจากการพ่ายแพ้สงครามหวุดหวิด

ผู้นำฝ่ายซ้าย ต้องตัดสินใจ ฆ่าตัวตาย หนีความอับอาย ที่นำชาติ สู่หายนะเป็นครั้งที่ 2

ปัจจุบัน

WW – 3

สลับซับซ้อน

ผู้นำมหาอำนาจ โลกเสรีประชาธิปไตย และโลกสังคมนิยม คอมมิวนิสต์

กำหนดกติกา และเล่นเกมส์ ระหว่างกัน

สงคราม ตัวแทน
สงคราม การค้า
สงคราม เขื้อโรค
สงคราม ยาเสพติด
สงคราม Carbon foot print / Carbon Credit

ผลคือเศรษฐกิจในประเทศมหาอำนาจดีขึ้น

ผลคือประเทศอื่นๆเศรษฐกิจซบเซา

โชคดี รัฐไทย หรือสยามรัฐ ราชอาณาจักรสยาม ถอดบทเรียนย้อนหลัง ที่ผ่านมา นับกว่า ร้อยปี

โชคดี รัฐไทย ก็มี INTERPID