POLITICS: ‘สว.สมชาย’ ลั่น หากนิรโทษกรรมสุดซอยอีก อาจเกิดวิกฤตการเมืองซ้ำ เตือนเพื่อไทยมีบทเรียนปี 57 แล้ว บอก ประชาชนรู้ทัน ชี้ กมธ.เดินมาถูกทางแล้ว แต่ต้องยกเว้นคดี ม.112
นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงการการนิรโทษกรรมนักโทษคดี ม.112 หลังมีชื่อของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามาเป็นเงื่อนไขเรื่องนี้เพื่อเดินหน้าว่า ถ้าเป็นแบบนี้จะนำไปสู่วิกฤติการเมืองทันที เพราะในอดีตมีบทเรียนมาแล้วว่าการชุมนุมประท้วงของประชาชนครั้งใหญ่ที่ผ่านเกิดจากการเดินหน้านิรโทษกรรม และนำไปสู่ยึดอำนาจในปี 2557 เพราะนิรโทษกรรมสุดซอย ซึ่งตอนนี้เกิดการยกร่างแบบเดิม เสนอร่างเข้าสภาและไปสอดไส้ภายหลัง
นายสมชาย กล่าวว่า ขณะนี้เริ่มมีคนในพรรคเพื่อไทยออกมาบอกว่า ต้องนิรโทษกรรมมาตรา 112 โดยอ้างเด็ก แต่เรื่องจริงคือนายตัวเองโดนคดี 112 เรื่องแบบนี้ชาวบ้านรู้ทัน และหากพรรคร่วมรัฐบาลไม่เอาด้วย เพื่อไทยจะย้ายเข้าข้างกับก้าวไกล จะยิ่งตอกย้ำเรื่องของดีลลับฮ่องกง
นายสมชาย กล่าวต่อว่า กรณีของนายทักษิณเป็นกรณีที่ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตนและส่วนพรรค ไม่ได้นำไปสู่ความปรองดอง แต่จะนำไปสู่วิกฤติการเมือง อาจจะเกิดแรงต่อต้านจากประชาชนทั่วประเทศหรือไม่ และอาจนำไปสู่อุบัติเหตุทางการเมืองอีกครั้งหรือไม่ ดังนั้น คิดว่าสิ่งที่กรรมาธิการเดินหน้ามาถูกต้องแล้ว ควรมีการนิรโทษกรรมแต่ต้องยกเว้นไว้ 3 คดีสำคัญ ที่ไม่ใช่เรื่องการปรองดอง แต่เป็นเรื่องของวาระซ่อนเร้นไว้ คือ
- ห้ามนิรโทษกรรมคดีทุจริต โกงชาติบ้านเมือง
- คดีฆ่า อาชญากรรมร้ายแรง ยาเสพติด
- คดี 112 ซึ่งเป็นกฎหมายหมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายสถาบัน
ทั้งนี้ การที่พรรคเพื่อไทยกำลังจะเสนอเรื่องนี้ โดยร่วมกับพรรคก้าวไกลหรือไม่ก็ตาม ถือเป็นสัญญาณอันตรายที่จะทำให้การเมืองร้อนขึ้นมาอีก เป็นสิ่งที่ไม่บังควร จึงฝากไปยังคณะกรรมาธิการที่กำลังพิจารณาในเรื่องนี้ว่า กมธ.เดินมาในระดับที่ได้ดีพอสมควร อย่าย้อนกลับไปสุดซอยแบบเดิมอีก ถ้าย้อนกลับไปก็มั่นใจว่าจะเกิดวิกฤติตามมาทันที เชื่อว่าคนไทยค่อนประเทศไม่เห็นด้วย อย่าฝืนทำต่อไป ประชาชนรู้ทันแล้วคงไม่ยอม