7 กรกฎาคม 2560 นายวัฒนา เมืองสุข พรรคเพื่อไทย ลูกเขย CP ได้โพส facebook ส่วนตัวระบุถึง พรก.ต่างด้าวว่า
“ศูนย์วิจัยธนาคารกสิกรไทยประเมินการออก พรก. การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ว่า มีผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจประมาณ 0.3% ของจีดีพี หรือคิดเป็นมูลค่า 46,500 ล้านบาท โดยกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ กลุ่มเกษตรกรรมและกิจการต่อเนื่อง กลุ่มโรงแรม ภัตตาคาร ค้าขาย และกลุ่มก่อสร้าง ทั้งนี้ยังไม่รวมต้นทุนของผู้ประกอบการที่เพิ่มขึ้นจากการทำให้แรงงานต่างด้าวทำงานอย่างถูกต้อง ความเสียหายดังกล่าวประเมินเฉพาะมูลค่าทางเศรษฐกิจ ยังไม่นับรวมความเสียหายที่เกิดจากการที่ประเทศต้องสูญเสียความน่าเชื่อถือทั้งจากสายตาของคนไทยเองและประชาคมโลกซึ่งประเมินค่ามิได้
การออก พรก. ดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงการขาดองค์ความรู้และทัศนคติของรัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจว่ามีความคับแคบ มองปัญหาอย่างตื้นเขินไม่ได้พิจารณาผลกระทบอย่างรอบด้าน มีความคิดสวนทางกับพัฒนาการของโลกที่มุ่งเน้นการเป็นพลเมืองโลกของประชากร แรงงานดังกล่าวยังมีความสำคัญกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย แต่ประชาชนกลับต้องเป็นผู้แบกรับความเสียหายราคาแพงทั้งที่ไม่ได้เป็นผู้เลือกรัฐบาลนี้มาบริหารประเทศ ที่น่าเป็นห่วงคือไม่ได้เป็นความผิดพลาดครั้งแรก หากแต่มีความเสียหายที่เกิดจากความด้อยสติปัญญาของรัฐบาลให้เห็นมาโดยตลอด เช่น การออกคำสั่งตามมาตรา 44 กรณีห้ามนั่งกระบะท้ายรถปิ๊กอัพ และรถไฟฟ้าความเร็วสูงไทย-จีนที่ถูกคัดค้านจากทุกฝ่าย หรือการปล่อยให้สินค้าเกษตรราคาตกทำให้ประชาชนขาดกำลังซื้อส่งผลเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศ ไม่นับรวมการใช้อำนาจตามอำเภอใจและการละเมิดสิทธิมนุษยชนจนถูกประชาคมโลกประณามมานับครั้งไม่ถ้วน สิ่งที่ประชาชนรอฟังจากรัฐบาลคือพอได้หรือยัง เพราะการบริหารประเทศต้องใช้สติปัญญาและ ครม. ไม่ใช่ที่ฝึกงานของเผด็จการ”