ส.ว.สมชาย แสวงการ อดีตปธ.กรรมาธิการวุฒิสภา ได้โพสต์ข้อความระบุว่า
คนไทยรู้ว่าเกาะกูดเป็นของไทยมา 117 ปี
ด้วยจำยอมเสียดินแดน พระตะบอง เสียมราช ศรีโสภณ แลกจันทบุรี ตราด คืนมา
แต่ที่ต้องออกมาคัดค้านการเจรจาแบ่งครึ่งแหล่งพลังงานอ่าวไทย 10 ล้านล้านบาท #saveเกาะกูด
เพราะรู้ทัน #คนขายชาติ ที่แกล้งโง่ไปเซนต์ยอมรับเส้นเขตแดนอาณาเขตทางทะเล
ที่กัมพูชาประกาศฝ่ายเดียว ไม่มีกฎหมายใดๆอ้างอิงยอมรับ เมื่อ คศ1972 หรือ พศ2515 โดยการตีเส้นจากหลักเขต 73 จากชายแดนไทย-กัมพูชาลากตรงมาที่ผ่ากลางเกาะกูด(หรืออ้อมนิดหน่อย)และลากยาวต่อเนื่องไปกลางอ่าวไทย
ซึ่งหมายถึงการรุกล้ำอธิปไตยและผลประโยชน์ทางทะเลของไทยทั้ง ในทะเล
ใต้ท้องทะเล และบนท้องฟ้า
ขอเสนอข้อเท็จจริงและทางออกดังนี้
1)รัฐบาลไทยสมัยจอมพลถนอม ได้ประกาศคัดค้านและประกาศเส้นแนวเขตแดนทางทะเลที่แบ่งปันอย่างถูกต้องชัดเจนคือ เส้นกึ่งกลางระหว่างเกาะกูดกับเกาะกง เมื่อคศ1973 หรือพศ2516
2)กองทัพไทย โดย กองทัพเรือภาค1 ทร ยังคงวางกำลังเรือรบลาดตระเวน
กองทัพอากาศ ยังบินตรวจการณ์รักษาแนวไว้ ทั้ง 100% เครื่องบิน เรือรบกัมพูชา เข้ามาล้ำแดนไม่ได้เด็ดขาด
3)ปัญหาของMOU 2544 คือการยอมรับเส้นเขตแนวกัมพูชา คศ1972 ที่จะเอาจะเจรจาบนหลักการที่ยอมรับว่า มีพื้นที่ทับซ้อนไทย -กัมพูชา จริงในอ่าวไทย
แม้จะพยายามอธิบายว่า ควรต้องเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์พลังงานในพื้นที่ดังกล่าว โดยไม่เกี่ยวกับเขตแดน หรือต้องเจรจาควบคู่กัน
แต่ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายระหว่างประเทศที่ถูกต้องนั้น ปรากฏชัดเจนว่า การประกาศเส้นเขตแดนของกัมพูชาฝ่ายเดียวนั้น ไม่อยู่ใน unclos หรืออนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 แต่ประการใด ไม่ได้ยึดหลักการแบ่งเขตที่ถูกต้อง
4)รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เคยนำเรื่องยกเลิกMOU2544 เข้ามีมติครม แล้ว แต่ด้วยเป็นมติลับ (แฟ้มชมพู) จึงมิได้ปรากฏมติครม.ต่อสาธารณะ และเกิดการยุบสภาไปก่อน
จึงไม่ได้ทันนำเข้ารัฐสภา เพื่อให้ความเห็นชอบตามรัฐธรรมนูญ
ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวให้ชัดเจน
รัฐบาลปัจจุบันจึงควรนำเรื่องยกเลิกMOU2544
เข้าสู่รัฐสภาเพื่อให้ความเห็นชอบตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา178 โดยเร็ว
และรัฐบาลต้องประกาศว่า จะยกเลิกเอาพลังงานของชาติไทย 10 ล้านล้านไปแบ่งคนละครึ่ง กับชาติอื่น เพราะไม่มีพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลในอ่าวไทย มีแต่ผลประโยชน์ทับซ้อนนักการเมืองและทุนพลังงานข้ามชาติ
สมชาย แสวงการ
3 พย2567