19 ธ.ค. ศาลอาญาพิพากษาคดีของ ”อานนท์ นำภา“ จำคุก 4 ปี ก่อนลดเหลือ 2 ปี 8 เดือน ตามความผิดในข้อหา #ม112 #ม116 แต่ยกฟ้องในข้อหา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียง และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เหตุปราศรัยประเด็นปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ใน #ม็อบแฮรี่พอตเตอร์ เมื่อปี 63 ในข้อหาตาม #พรกฉุกเฉินฯ และ #พรบเครื่องขยายเสียง เห็นว่าจำเลยได้รับเชิญมาปราศรัย ฟังไม่ได้ว่าเป็นผู้จัดชุมนุม จึงไม่มีความผิดในข้อหานี้ ในข้อหาตาม #ม116 #พรบคอมพิวเตอร์ฯ เห็นว่าแม้จำเลยจะโพสต์ไม่เหมาะสม แต่ไม่ถึงขนาดเป็นความผิดตามฟ้องข้อหานี้ ในข้อหาตาม #ม112 #ม116 เห็นว่า ปรากฏข้อเท็จจริงว่าจำเลยพูดว่ากษัตริย์แทรกแซงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กล่าวว่าใครที่พูดเกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์ส่วนมากจะถูกฆ่าหรือถูกอุ้ม จำเลยกล่าวอ้างใส่ร้ายกษัตริย์โดยมุ่งหวังให้เกิดความวุ่นวายในสังคมและการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง จำเลยปราศรัยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการเมืองการปกครองหลายครั้ง รัฐธรรมนูญ มาตรา 6 ห้ามไม่ให้ผู้ใดล่วงละเมิดกษัตริย์ จำเลยเป็นนักกฎหมายจะต้องตระหนักในกฏหมายข้อนี้ดีกว่าบุคคลทั่วไป แต่จำเลยปราศรัยใส่ร้ายพระราชกรณียกิจฯ เป็นการละเมิดต่อกษัตริย์ฯ ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 6 ตาม ป.วิอาญา มาตรา 174 วรรคท้าย การที่จำเลยไม่ได้สืบพยาน มิได้ทำให้ข้อเท็จจริงและคำวินิจฉัยของศาลเปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งหากศาลเรียกเอกสารมาตามที่จำเลยร้องขอ จะเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 6 ทั้งจะทำให้จำเลยกับบุคคลที่เกี่ยวข้องมีความผิดและเกิดความวุ่นวายในสังคม ส่งผลเสียต่อความสงบเรียบร้อย และขัดต่อการปกครองอันมีกษัตริย์ทรงเป็นประมุข การปราศรัยทำให้กษัตริย์เสื่อมเสียพระเกียรติ การกระทำของจำเลยไม่อยู่ในความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ จึงเป็นความผิดตามมาตรา 112 และมาตรา 116 ให้ลงโทษบทหนักที่สุดคือมาตรา 116 ลงโทษจำคุก 4 ปี จำเลยให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษลงหนึ่งในสาม คงจำคุก 2 ปี 8 เดือน เรืองฤทธิ์ บัวลอย และ เทอดศักดิ์ อินทรปรีชา ผู้พิพากษาในคดีนี้