“บิ๊กอ้วน” ถก กมธ. ถ่ายโอนธุรกิจกองทัพ
เคลียร์ ที่ดินทหาร
บางพื้นที่ ใช้เป็นการฝึกตามแผนป้องกันประเทศ
ธุรกิจกองทัพ 152 กิจการทหาร
แบ่งเป็น 86 สวัสดิการในเชิง
ธุรกิจ เช่าที่ราชพัสดุกับกรมธนารักษ์
อีก 66 กิจการ ไม่ติดถนนใหญ่
เป็น สวัสดิการภายในหน่วยทหาร
ใช้การพิสูจน์ ชาวบ้าน หรือทหาร มาก่อน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ต้อนรับ
คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนธุรกิจของกองทัพ ไปอยู่ในความดูแลของหน่วยงานอื่น หรือย้ายไปสถานที่อื่นที่เหมาะสม นำโดย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ เข้าพบ ที่ ห้องยุทธนาธิการ ศาลาว่าการกลาโหม
1.นโยบายเกี่ยวกับที่ดินที่อยู่ในการดูแลของเหล่าทัพ กองทัพมีที่ดินในความครอบครอง ดูแล และใช้ประโยชน์ รวมทั้งสิ้นประมาณ 5.9 ล้านไร่
โดยส่วนใหญ่ใช้ประโยชน์เป็นที่ตั้งหน่วย พื้นที่ฝึก และดำเนินการตามภารกิจของ ทบ. ซึ่งปัจจุบันมีประชาชนเข้าใช้ประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาตและจัดให้เช่าแล้วบางส่วน และยังอยู่ในกระบวนการพิสูจน์สิทธิ เนื้อที่รวมประมาณ 1.2 ล้านไร่เศษ
อย่างไรก็ตาม หากพิสูจน์สิทธิ์แล้วพบว่า ประชาชนอยู่มาก่อน การเป็นที่ดินของรัฐ กองทัพเคารพสิทธิ์ดังกล่าว โดยประชาชนสามารถไปออกเอกสารสิทธิตามขั้นตอนได้
แต่หากพบว่าสิทธิ์ ในที่ดินเป็นของรัฐ กองทัพก็พร้อม ที่จะแก้ไขปัญหา โดยการให้ประชาชน ยื่นขอเช่ากับ กรมธนารักษ์ ให้ถูกต้องตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป
ในพื้นที่ที่กองทัพยังไม่ได้ใช้ประโยชน์
สำหรับที่ดินที่กองทัพไม่ได้ใช้ประโยชน์ คือ ที่ดินที่ส่วนราชการภายนอก ขอใช้ประโยชน์จากกองทัพ และที่ดินที่ประชาชนเข้าใช้ประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ ตามภารกิจของกองทัพ นอกจากต้องมีพื้นที่ตั้งหน่วยปกติ และพื้นที่สำหรับการฝึก – ศึกษาแล้ว ยังต้องใช้พื้นที่สำหรับการฝึกตามแผนป้องกันประเทศด้วย ซึ่งพื้นที่ที่ใช้ประโยชน์ต้องรองรับขีดความสามารถของยุทโธปกรณ์ ที่ต้องใช้พื้นที่ขนาดกว้างขวาง เช่น การฝึกการดำเนินกลยุทธด้วยปืนใหญ่ การฝึกในระดับกรมผสม รวมทั้ง การสงวนการปฏิบัติในพื้นที่ส่วนหลังเมื่อเกิดสถานการณ์
เป็นต้น
ดังนั้น พื้นที่ดังกล่าว กองทัพบกต้องสงวนไว้ใช้ประโยชน์ในอนาคต เมื่อมีความจำเป็น
การดำเนินการนำที่ดินไปให้ประชาชนเช่าใช้ประโยชน์ตามนโยบายรัฐบาล ในระยะที่1 ห้วงปีงบประมาณ2567 เหล่าทัพได้ยินยอมให้กรมธนารักษ์ ได้นำพื้นที่ไปจัดให้ประชาชนเช่าเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย และทำการเกษตรแล้วจำนวน 16,000 ไร่เศษ และปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการในระยะที่2 เนื้อที่รวมประมาณ 59,000 ไร่เศษ
2.แนวทางการดำเนินการจัดสวัสดิการภายในของ กห.การจัดสวัสดิการของ กห. (สป., บก.ทท. และเหล่าทัพ) มีมานานแล้ว โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเป็นสวัสดิการเพิ่มเติมให้แก่กำลังพลและครอบครัว ตลอดจนเพิ่มรายได้ให้แก่กำลังพล รวมถึงเป็นการรักษาพื้นที่
รับผิดชอบของหน่วยตามที่ได้รับการจัดสรรให้มาอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของ กห.
อย่างไรก็ตาม เมื่อกาลเวลา
ผ่านไป กห. ได้มีการปรับปรุงและพัฒนาการจัดสวัสดิการให้สอดคล้องตามยุคสมัยอย่างต่อเนื่อง
กิจการสวัสดิการของ กห. มิได้ปิดกั้นการใช้บริการเฉพาะกำลังพลและครอบครัวเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาส
ให้บุคคลทั่วไปเข้าใช้บริการได้ด้วย
ทั้งนี้ มีหลายกิจการสวัสดิการที่มีที่ตั้งในพื้นที่ใกล้เคียงแหล่งชุมชน แหล่ง
ท่องเที่ยว และพื้นที่การคมนาคมที่สำคัญซึ่งเอื้อให้มีบุคคลทั่วไปเข้าใช้บริการเป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีเวลาปิด – เปิดเกินกว่าระยะเวลาทำการ กห. จึงดำเนินการปรับเปลี่ยนรูปแบบจากการจัดกิจการสวัสดิการภายในหน่วยบาง
กิจการ ที่มีบุคคลทั่วไปเข้าใช้เป็นจำนวนมาก เป็น การจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจ เพื่อให้มีความถูกต้องและเป็นไป ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดสวัสดิการภายในส่วนราชการ พ.ศ. 2547 และจำแนกประเภท
การจัดสวัสดิการออกเป็น การจัดสวัสดิการภายในหน่วย และการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจอย่างชัดเจน โดย
ปัจจุบัน กห. มีกิจการสวัสดิการขนาดใหญ่ เช่น กิจการสนามกอล์ฟ, สถานีบริการน้ำมัน, สถานพักฟื้นและพักผ่อน
และตลาดนัด รวมถึงกิจการขนาดใหญ่อื่น ๆ รวมจำนวนทั้งสิ้น 152 กิจการ แบ่งเป็น กิจการสวัสดิการในเชิง
ธุรกิจ จำนวน 86 กิจการ ได้ดำเนินการทำบันทึกข้อตกลงเช่าที่ราชพัสดุกับกรมธนารักษ์เรียบร้อยแล้ว
ส่วนกิจการที่เหลืออีก 66 กิจการ ยังคงดำเนินการในรูปแบบสวัสดิการภายใน เนื่องจากกิจการดังกล่าว ตั้งอยู่พื้นที่ด้านในของหน่วย ไม่ติดถนนใหญ่ ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นกำลังพล และเปิด – ปิดใกล้เคียงเวลาราชการ