ข่าวประจำวัน » โจรใต้ปั้นข่าว !! ใส่ร้ายจนท. หลังขบวนการทำจนท.สาหัส3 เพราะจะหลบหนี

โจรใต้ปั้นข่าว !! ใส่ร้ายจนท. หลังขบวนการทำจนท.สาหัส3 เพราะจะหลบหนี

28 December 2024
22   0

สร้างความเข้าใจกรณี นาย ฮัมดี โตะมะ

จากกรณีนาย ฮัมดี โตะมะ บุคคลต้องสงสัยจากเหตุความมั่นคงในพื้นที่ จชต. กระชากพวงมาลัยรถเจ้าหน้าที่ เพื่อหลบหนีขณะเจ้าหน้าที่กำลังนำตัว นาย ฮัมดีฯ จาก สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ไปส่งที่ ศปก.ตร.สน. อ.เมือง จ.ยะลา ทำให้รถเกิดอุบัติเหตุส่งผลให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บสาหัส 3 นาย ต่อมา นาย ฮัมดีฯ ได้เข้าแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ อส.ชคต.คอลอตันหยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 67 และได้มีสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งคาดว่าเป็นแนวร่วมกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงกล่าวโจมตีบิดเบือนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในด้านต่างๆ โดยใช้ข้อความอันเป็นเท็จ ซึ่งก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชน ดังนั้น กอ.รมน.ภาค 4 สน. ขอสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อกรณีที่เกิดขึ้น ดังนี้
เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.67 เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้เข้าควบคุมตัว นาย ฮัมดี โตะมะ ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่ อ.เมืองปัตตานี,อ.ปะนาเระ, อ.ยะหริ่ง และปล้นเงินพนักงานเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาปาลัส จำนวน 1.2 ล้านบาท โดยควบคุมตัวได้ที่บ้านพักใน ต.ปากู อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี

จากนั้น ฉก.ทพ.44 ได้นำตัวไปลงบันทึกประจำวัน ณ สภ.ทุ่งยางแดง โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ. กฎอัยการศึกฯ และเชิญตัวนาย ฮัมดีฯ ไปยัง ศูนย์ซักถาม ฉก.ทพ.43 เพื่อดำเนินกรรมวิธีซักถามในขั้นต้น จากผลการซักถามนาย ฮัมดีฯ ให้การยอมรับว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จำนวน 7 เหตุการณ์ประกอบด้วย
1.เหตุประกบยิง น.ส.กันยารัตน์ ขุนนอก และนางเอกปิยะ รัตนปรี ในพื้นที่ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เมื่อ 5 เม.ย.57
2.เหตุยิง น.ส.ลออ พรมจินดา เสียชีวิต ในพื้นที่ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เมื่อ 15 พ.ค. 57 โดยทำหน้าที่ขับรถ จจย. ให้กับมือปืน

  1. เหตุยิง อส.ทพ.ภูมิศักดิ์ เย็นทั่ว เสียชีวิต ในพื้นที่ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เมื่อ 15 พ.ค. 57 โดยทำหน้าที่ขับรถ จจย. ให้กับมือปืน
  2. เหตุคนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องซุกซ่อนในรถบรรทุกเก็บขยะ ในพื้นที่ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เมื่อ 21 มิถุนายน 2565
    5.เหตุปล้นเงินพนักงานเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาปาลัส เมื่อ 18 พ.ย. 67
    6.เหตุลอบวางระเบิดในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ต.เกาะจัน อ.มายอ จ.ปัตตานี เมื่อ 22 มี.ค. 67
    7.เหตุคนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องซุกซ่อนในรถยนต์บริเวณถนนระหว่าง สภ.ปะนาเระ กับที่ว่าการ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เมื่อ 24 ต.ค.2567
    ต่อมา เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.67 เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นาย ฮัมดีฯ ไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี และนำกลับมาควบคุมตัวตาม พรก.ฉุกเฉิน เพื่อเข้าสู่กระบวนการกรรมวิธีซักถามขยายผลเกี่ยวกับการกระทำความผิดทั้ง 7 เหตุการณ์ ดังกล่าวที่ ศปก.ตร.สน. อ.เมือง จ.ยะลา โดยใช้เส้นทางหมายเลข 418 เมื่อรถมาถึงบริเวณพื้นที่ ต.คอลอตันหยัง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี นาย ฮัมดีฯ ซึ่งนั่งอยู่ตรงกลางเบาะหลัง ได้กระโจนไปดึงพวงมาลัยรถ ทำให้รถยนต์ประสบอุบัติเหตุชนราวสะพานข้างทาง และนาย ฮัมดีฯอาศัยจังหวะเจ้าหน้าที่บาดเจ็บหลบหนีไปได้ ส่วน จนท.ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 นาย และเสียชีวิต 1 นาย ประกอบด้วย
  3. ร.ท.ธงภักดิ์ ศุกรวัชรินทร์ ได้รับบาดเจ็บบริเวณสะโพก ปัจจุบันรักษาตัวที่ รพ.ปัตตานี
  4. ส.ท.ชวลิต กิตติพันธ์ ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ ไม่แตก ปัจจุบันรักษาตัวที่ รพ.ปัตตานี
  5. อส.ทพ.ณัฐวุฒิ อุ่นหล้า ได้รับบาดเจ็บตามร่างกายและมีอาการแขนหัก รักษาตัวขั้นต้นที่ รพ.ปัตตานี และนำส่ง รพ.สงขลานครินทร์
  6. อส.ทพ.ไพโรจน์ ปราบปราม ได้รับบาดเจ็บบริเวณคอและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ต่อมาเมื่อ วันที่ 26 ธ.ค.67 เวลาประมาณ 1800 นาย ฮัมดีฯ ได้เข้าไปแสดงตัวที่ฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบลคอลอตันหยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จากการตรวจสอบร่างกายเบื้องต้นพบว่ามีบาดแผลบริเวณแขนขวา เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น รวมทั้งจัดหาอาหารและน้ำดื่มให้เป็นการด่วนเนื่องจากนาย ฮัมดีฯ อยู่ในอาการบาดเจ็บ อ่อนเพลีย และหิวโซ พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวของเจ้าหน้าที่นับได้ว่า เป็นการปฏิบัติตามหลักกฎหมาย หลักมนุษยธรรม และหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด โดยไม่มีการแบ่งแยกว่าบุคคลดังกล่าวจะมีพฤติกรรมเช่นใดมาก่อน แต่เมื่อตรวจพบว่าอยู่ในสภาพบาดเจ็บจึงต้องให้การช่วยเหลือให้พ้นขีดอันตรายเป็นอันดับแรก รวมทั้งการที่ นายฮัมดีฯ เลือกที่จะเข้าไปแสดงตัวต่อ เจ้าหน้าที่ อส.ชคต. นั้น ย่อมแสดงว่า นายฮัมดีฯ มีความเชื่อมั่นในตัวเจ้าหน้าที่ว่าจะไม่ทำร้ายและให้การคุ้มครองตนเองได้อย่างแน่นอน นับเป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ สามารถเป็นที่พึ่ง และเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนได้ในทุกโอกาส

อย่างไรก็ตามได้มีสื่อสังคมออนไลน์พยายามกล่าวหาชี้นำสังคม บิดเบือนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ว่าไม่มีความโปร่งใส เจ้าหน้าอยู่ในอาการมึนเมา และพยายามขู่ฆ่า นายฮัมดีฯ ตลอดเวลา รวมทั้งในระหว่างการหลบหนี นายฮัมดีฯ ได้แย่งชิงอาวุธของเจ้าหน้าที่ไปด้วย โดยมีเจ้าหน้าที่ยิงปืนใส่ จึงจำเป็นต้องหนี โดยคำกล่าวอ้างดังกล่าว เป็นคำกล่าวที่เลื่อนลอย ไม่มีหลักฐานและมูลความจริงแต่อย่างใด อีกทั้งขั้นตอนการปฏิบัติต่างๆ ของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชนอย่างโปร่งใสชัดเจน รวมทั้งในวันดังกล่าว ไม่มีอาวุธของเจ้าหน้าที่สูญหายและไม่ได้ทำการยิงปืนออกไปแต่อย่างใด อีกทั้งเจ้าหน้าที่ทุกนายได้รับบาดเจ็บสาหัสจากแรงกระแทกของรถยนต์และไม่ได้อยู่ในภาวะเตรียมตัว ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ส่งผลให้ให้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว

ทั้งนี้ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ขอให้พี่น้องประชาชนได้ร่วมกันตรวจสอบข้อมูลที่รับทราบจากสื่อในช่องทางต่างๆ อย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อสร้างการรับรู้ที่ถูกต้อง เพื่อนำไปสู่ความเข้าใจและร่วมกันแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ นำพาความสงบและสันติสุขอย่างยั่งยืนมาสู่พื้นที่ จชต. ต่อไป