ข่าวประจำวัน » ต้องปฏิรูปทุกด้าน !! ย้อนร้อยคำพูดดร.อาทิตย์ ตั้งแต่ปี66 ไม่ทำทุกอย่างจะพัง

ต้องปฏิรูปทุกด้าน !! ย้อนร้อยคำพูดดร.อาทิตย์ ตั้งแต่ปี66 ไม่ทำทุกอย่างจะพัง

16 January 2025
12   0

6 พ.ค. 2566 ก่อนเลือกตั้งไม่กี่วัน

ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อดีตอธิการบดี ม.รังสิต อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร อดีตนักการเมืองน้ำดีที่หาได้ยากยิ่งในประเทศนี้ ได้กล่าวปาฐกถา เรื่อง “อนาคตประเทศไทยในบริบทโลก” ในการเสวนา “วาระประเทศไทย ไปให้ไกลกว่าเลือกตั้ง”

ท่านมองการเมืองได้ขาด พูดได้อย่างลึกซึ้ง ผมขอยกมาบางส่วน

“ตลอดหลายสิบปีที่ผมอยู่ในแวดวงการเมือง ทั้งในฐานะ รมต. ส.ส. ผู้บริหารพรรคการเมือง ผมเห็นความเปลี่ยนแปลงของประเทศชาติมาหลายยุคหลายสมัย ผ่านวิกฤตการณ์ ประสบด้วยตัวเองมาก็หลายครั้ง

แต่ไม่มีครั้งไหนจะสิ้นหวัง มืดมิด ไร้แสงสว่าง ไร้หนทาง เท่ากับวิกฤตการณ์ของชาติที่พวกเราคนไทยต่างประสบกันอยู่ในครั้งนี้

การเมืองที่เราเห็นกันในวันนี้ เป็น “การเมืองสามานย์” ระบบการเมืองล้มเหลวในทุกระดับ ขาดจิตสำนึกที่ดีและขาดความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง

การอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร อย่างที่เราเห็นกัน ก็ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของพี่น้องปชช.หรือประเทศชาติบ้านเมือง แต่กลับใช้การอภิปรายเป็นเวทีต่อรองราคา ต่อรองตำแหน่ง ต่อรองอำนาจผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง จนกลายเป็นเทศกาลแจกกล้วย มีคนแจก มีคนรับ ทำกันมาหลายปีแล้ว

การแก้ไข รธน. ก็ทำกันเหมือนเด็กเล่นขายของ ปชช.ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย เป็นเรื่องของนักการเมือง ชิงไหวชิงพริบเพื่อเอาชนะกันในการเลือกตั้ง แย่งชิงอำนาจกันเองทั้งสิ้น

แบบนี้ต้องเรียกว่า เป็น “ปชต.สามานย์” “ปชต.จอมปลอม” ไม่ใช่ ปชต. ที่แท้จริงอย่างที่พวกเราต้องการ ซึ่งอำนาจการบริหารบ้านเมืองเป็นของปวงชน และเป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวม

ทุกท่านครับ

“ปชต.ของไทย” ล้มเหลวมาโดยตลอด ตั้งแต่ระดับชาติไปจนถึงระดับท้องถิ่น

แทนที่จะช่วยสร้างความเจริญรุ่งเรือง แต่กลับใช้เป็นช่องทางแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์ เป็นเหตุให้ความเหลื่อมล้ำและความไม่เป็นธรรมในสังคมขยายตัวมากขึ้น

คนไทยจำนวนมากยังใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก หาเช้ากินค่ำ และมีแต่จะยากจนลงไปอีก

แต่คนร่ำรวย มหาเศรษฐี ซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อย กลับครอบครองทรัพย์สินจำนวนมาก

กลุ่มทุนใหญ่และทุนต่างชาติก็มีอำนาจเหนือตลาด ผูกขาดและใช้อิทธิพลครอบงำระบบเศรษฐกิจของประเทศ ในขณะที่กระบวนการยุติธรรมก็ขาดความน่าเชื่อถือ การบังคับใช้กฎหมายก็ไม่เป็นธรรม ไม่ได้เป็นที่พึ่งของปชช.อย่างแท้จริง

การทุจริตที่ฝังลึกในระบบการเมืองและระบบราชการจนยากจะแก้ไข

และนับวันจะยิ่งโกงกินกันมากขึ้นจนกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันไปแล้ว

การเลือกตั้ง ซึ่งเป็นต้นทางของปชต. อย่างที่ทุกท่านทราบกัน ก็ได้แปรสภาพเป็นการประมูลประเทศ

กลยุทธ์ที่ทุกพรรคการเมืองใช้เงินเป็นนโยบายหาเสียง สัญญาว่าจะให้ ไม่ว่าจะเป็นในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านๆมา ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้ หรือแม้กระทั่งในอนาคต ก็เป็นการซื้อสิทธิ์ขายเสียงด้วยกันทั้งสิ้น

ถือเป็นศัตรูตัวร้ายที่ทำลายระบอบปชต. และจะทำลายประเทศชาติบ้านเมืองของพวกเราในที่สุด

การเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.นี้ ก็คาดการณ์ได้ว่า คงไม่ต่างจากครั้งที่ผ่านๆมา ทราบมาว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้ มีการลงทุนใช้เงินกันมหาศาล เพราะต่างฝ่ายต่างต้องแย่งชิงอำนาจกันเพื่อเป็นรัฐบาล เรียกได้ว่า แพ้ไม่ได้ ยอมกันไม่ได้

อย่างนี้ไม่ใช่ปชต. แต่เป็น “ธนาธิปไตย” หรือ ปชต.สามานย์ ที่เงินกลายเป็นปัจจัยหลักในการเข้าสู่อำนาจรัฐ

การเมืองจึงแปลงสภาพเป็น Money Politics คนที่มีอำนาจเงินจึงเป็นใหญ่ อยู่เหนืออำนาจของปชช.

ด้วยเหตุนี้ การเมืองไทยจึงกลายเป็นธุรกิจการเมือง ที่กลุ่มทุนเข้ามาลงทุนเพื่อหวังเอาทุนคืน แสวงหาอำนาจ เอาผลกำไร จนเกิดการทุจริตคอรัปชั่นกันอย่างมโหฬาร ระบบตรวจสอบและระบบคานอำนาจอ่อนแอ ฝ่ายค้านและภาคปชช. อ่อนแอ จนเป็นที่มาของเผด็จการรัฐสภา

แล้วก็จบลงด้วยการปฏิวัติรัฐประหาร ยึดอำนาจ กลายเป็นเผด็จการคณะใหม่ แล้วก็มาแสวงหาอำนาจหาผลประโยชน์ไม่ต่างกัน เป็นวงจรอุบาทว์ไม่มีที่สิ้นสุด อย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้

แล้วทำไม พวกเราปชช.ชาวไทยซึ่งเป็นเจ้าของประเทศ เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย จึงได้วางเฉย ยอมรับ และยอมให้นักการเมืองซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อยนิด เป็นผู้คุมกลไกอำนาจรัฐและสร้างระบบสามานย์มาครอบงำประเทศชาติและปชช.ได้อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

ปชช.ชาวไทยต้องกลายเป็น “ทาส” อีกครั้งหนึ่ง ถึงแม้ว่า “พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” พระมหากษัตริย์ของเรา ทรงประกาศเลิกทาสไปเมื่อร้อยกว่าปีมาแล้ว

แต่ยุคนี้กลับมีนักการเมือง นายทุน มาสร้างระบบที่ทำให้ปชช.กลับกลายเป็นทาสในรูปแบบใหม่อีกครั้ง

ทำไมเราถึงยอมตกอยู่ในสภาพสิ้นหวังเช่นนี้กันได้

ระบบสามานย์ การเมืองที่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก มีแต่ความขัดแย้งแตกแยก แย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์ เพื่อตนเองและพวกพ้อง อย่างที่ทำกันมาตลอดหลายสิบปีนี้ กำลังนำประเทศชาติไปสู่ความหายนะ และล่มสลายในที่สุด

เพราะฉะนั้น

ทางรอดจากความหายนะของประเทศไทย มีอยู่ทางเดียวเท่านั้น คือ

“ต้องหลอมรวมปชช. และต้องยึดถือผลประโยชน์ของชาติเหนือสิ่งอื่นใด”

ทุกฝ่ายต้องตระหนักว่า ประเทศชาติจะดำรงอยู่ได้ก็ด้วยคนไทยทุกคน อยู่ร่วมกันด้วยความปรองดองอย่างสงบสุขบนผืนแผ่นดินเดียวกันนี้

ถ้าเราถอดเสื้อต่างสีออกไป ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย แล้วสวมหัวใจดวงเดียวกัน ที่มีเลือดสีเดียว คือ สีเลือดรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และปชช. คนในชาติก็จะมีแต่ความสามัคคีในจิตใจเป็นที่ตั้ง

ก่อให้เกิดพลังแผ่นดิน ผลักดันประเทศสู่ความสำเร็จและความมั่งคั่งของปชช.ทุกคน ทุกกลุ่ม ในทุกภาคส่วน

จึงจะเป็นการปฏิรูปประเทศที่บรรลุผลอย่างแท้จริง

…………….

ปล.ยังมีต่อ เรื่องการปฎิรูปประเทศ แนวทางสังคมธรรมาธิปไตย แปะลิงค์ฉบับเต็มไว้ในช่องคอมเม้นต์

ขอบคุณ สยามรัฐ