ข่าวประจำวัน » เพื่อไทย วุ่นแล้ว !! อดีต กกต.ฟันธงทักษิณเป็น ผช.หาเสียงไม่ได้ ส่อเจอใบแดง

เพื่อไทย วุ่นแล้ว !! อดีต กกต.ฟันธงทักษิณเป็น ผช.หาเสียงไม่ได้ ส่อเจอใบแดง

29 January 2025
23   0

.

อดีตกกต.ฟันทักษิณช่วยหาเสียงไม่ได้ นายกอบจ.อุดรฯ-อุบลฯ ส่อโดนร้องใบแดง กกต.ตีมึนเจอคุxก157

.

เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2568 – นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า จากข่าว กกต.ที่ 10/2568 วันที่ 14 ม.ค. 68 เผยแพร่ข่าวเรื่องผู้ช่วยหาเสียงในการเลือกตั้งท้องถิ่น โดยอ้างถึงกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องนั้น

นายเรืองไกร กล่าวว่า ได้ติดตามความหมายของ ผู้ช่วยหาเสียง จากกฎหมายและระเบียบที่ กกต. อ้างถึง ซึ่งเป็นการเลือกตั้งท้องถิ่นนั้น พบว่า แตกต่าง จากความหมายของ ผู้ช่วยหาเสียง สส. และปรากฏข้อเท็จจริงว่า ในการเลือกตั้งท้องถิ่นขณะนี้ อาจมีการใช้ผู้ช่วยหาเสียงโดยฝ่าฝืนระเบียบ กกต. ไปแล้ว หลายครั้งหลายที่หลายกรณี

นายเรืองไกรกล่าวว่า วันนี้ จึงได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ถึง กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบว่า

“ผู้ช่วยหาเสียง” ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ของแต่ละท้องถิ่น เป็น “ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น” ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 และ ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2563 หรือไม่

และ กรณีมีความปรากฏทั่วไปว่ามีผู้ช่วยหาเสียงหรือผู้ใด กระทำการฝ่าฝืนไปแล้ว กกต. จะต้องรีบดำเนินการกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง อย่างไร หรือไม่ โดยมีข้อกฎหมายในคำร้องส่วนหนึ่งระบุว่า

ข้อ 2. ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2563 กำหนดไว้ดังนี้

“ข้อ 3 ในระเบียบนี้

“ผู้สมัคร” หมายความว่า ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น

“ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง” หมายความว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น

“ผู้ช่วยหาเสียง” หมายความว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ได้รับการว่าจ้างจากผู้สมัครให้เข้าร่วม กิจกรรมในการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้ง ตลอดระยะเวลาหรือช่วงระยะเวลาหนึ่ง และเป็นบุคคลที่ได้แจ้งรายละเอียด หน้าที่และค่าตอบแทนต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ยกเว้นบุคคล ในครอบครัว ได้แก่ สามี ภริยาหรือบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย”

ดังนั้น “ผู้ช่วยหาเสียง” จึงควรหมายความว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นเฉพาะแต่ละ “สภาท้องถิ่น” หรือ “ผู้บริหารท้องถิ่น” เช่น นาย ท. ซึ่งอ้างเป็น ผู้ช่วยหาเสียง แต่กลับเป็นผู้ปราศรัยหลักบนเวทีหาเสียง นายกฯอบจ. หรือ สภา อบจ. ในหลายจังหวัด ซึ่งสื่อมวลชนต่าง ๆ ลงข่าวอย่างชัดเจน เป็นต้น

ต่อมาทางด้านของนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกกต. โพสต์ข้อความว่า เลือก อบจ. คราวนี้ มีบทเรียนให้ กกต. มากมาย แม้จะยังไม่ถึงวันเลือก อบจ. แต่มีหลายอย่าง ที่ กกต. ควรนำไปสรุปเป็นบทเรียนเพื่อการปรับปรุงแก้ไข โดยเป็นเจ้าภาพในการเสนอแก้กฎหมายหรือไปปรับปรุงวิธีการทำงานของตน

การลาออกของนายก อบจ. ก่อนครบวาระ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบใช้งบท้องถิ่นและสร้างความได้เปรียบในเรื่องค่าใช้จ่ายในการหาเสียงที่ต้องมาคำนวณหากอยู่จนครบวาระ เป็นเหตุให้ท้องถิ่นต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง 2 รอบ

การเปิดโอกาสให้พรรคการเมือง ส่งผู้สมัครท้องถิ่นได้ ทำให้พรรคการเมืองมาแข่งขันกันในเวทีท้องถิ่น และสร้างความได้เปรียบในฐานะที่เป็นรัฐบาลการนำนโยบายระดับประเทศ มาขายฝัน ในการเลือกตั้งท้องถิ่น โดยสิ่งที่หาเสียง ไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของท้องถิ่น

การใช้ผู้ช่วยหาเสียงจากคนที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง แต่เป็นเบอร์ใหญ่ มีอิทธิพลเหนือพรรค

การใช้เงินในการขนคนมาฟังการปราศรัย และมีการใช้เงินซื้อเสียงจำนวนมากในหลายพื้นที่

การใช้ความรุนแรง ในการข่มขู่ ทำร้าย ฆ่า ผู้สมัคร หรือ ผู้สนับสนุนผู้สมัครที่เป็นฝ่ายตรงข้าม

การอ้างชื่อพรรคการเมือง การใช้สัญลักษณ์พรรคการเมืองเพื่อให้คนสับสนว่ามีพรรคการเมืองใหญ่สนับสนุน

การใช้โครงการประชานิยมของรัฐ เพื่อสร้างคะแนนนิยมในช่วงใกล้วันเลือกตั้ง เช่น การแจกเงิน 10,000 บาท ให้แก่ผู้สูงอายุทั้งประเทศ ทุกเรื่อง ล้วนเป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อการเลือกตั้ง อบจ. ที่นำไปสู่ความไม่สุจริตและไม่เที่ยงธรรม

กกต. ที่รู้จักสรุปบทเรียนสามารถแก้ไข โดยการเสนอแก้กฎหมาย หรือ ออกระเบียบ หรือ กำชับการทำงานในหน่วยงานให้มีประสิทธิภาพขึ้นได้ ไม่ใช่เลือกจบแล้วก็งั้น ๆ ไม่แก้ไข รอให้เลือกใหม่ ก็เกิดปัญหาแบบเดิม ลืมไป สงสัยพวกท่านไม่ค่อยตั้งใจเรียนเท่าไร เลยไม่ค่อยสรุปบทเรียน

และล่าสุดนายสมชัย ยังได้โพสต์ข้อความต่ออีกด้วยว่า คารวะ 3 จอก คำร้อง เรืองไกร เรื่องผู้ช่วยหาเสียง สองวันก่อน คุณเรืองไกร ทำหนังสือร้อง กกต. ให้พิจารณาเรื่องการเลือกตั้งท้องถิ่น มีการใช้ผู้ช่วยหาเสียงที่ไม่เป็นไปตามระเบียบ กกต. ที่ว่า ผู้ช่วยหาเสียงต้องเป็นคนที่มีสิทธิเลือกตั้งของท้องถิ่นนั้น ๆ

ดังนั้น ทักษิณ ธนาธร พิธา ล้วนไม่สามารถเป็นผู้ช่วยหาเสียงต้องยอมรับว่า คำร้องดังกล่าว เฉียบคมในแง่กฎหมายที่ กกต. ไม่สามารถตีความเป็นอย่างอื่นได้เหลืออีก 3-4 วันจะถึงวันเลือกตั้ง ยังมีเวทีปราศรัยอีกหลายเวที กกต.ต้องส่งหนังสือถึงผู้สมัคร เตือนให้ใช้ผู้ช่วยหาเสียงตามระเบียบครับ คุณทักษิณ ธนาธร พิธา ขึ้นเวทีอีกไม่ได้ครับ

หาก กกต.ไม่ทำ ก็ฟ้อง 157 กกต. ได้ครับ ส่วนที่ผ่านมา หากการทำหน้าที่ของผู้ช่วยหาเสียง มีผลต่อการเลือกตั้ง ก็ร้องใบเหลือง ใบแดง ในจังหวัดนั้นได้ คารวะน้ำชา 3 จอกในวันไหว้ ตรุษจีน

ซึ่งก่อนหน้านี้ ที่เราย้อนไปดู จ.ที่นายทักษิณเคยไปปราศรัยในพื้นที่ภาคอีสาน ก็มีจ.อุดรธานี นายศราวุธ เพชรพนมพร จากพรรคเพื่อไทย หมายเลข 2 ได้ 203,078 คะแนน

และยังมีจ.อุบลราชธานี นายกานต์ กัลป์ตินันท์ ได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1 ซึ่งเขาได้ยอมรับว่า ผลคะแนนที่ออกมานอกจากจะมาจากผลงานที่ผ่านมาแล้ว กระแสนิยมของพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะการช่วยหาเสียงของ นายทักษิณ ชินวัตร ก็มีส่วนสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นและนำมาสู่คะแนนอันดับ 1 ในการเลือกตั้งครั้งนี้