……………#####…………
โดย ดร.สุกิจ พูนศรีเกษม
นิติศาสตร์ดุษฎีบันทิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นผู้ทรงคุณวุฒิทำหน้าที่อาจารย์ที่ปรึกษาร่วมและเป็นอาจารย์สอบวิทยานิพนธ์ และค้นคว้าอิสระให้แก่นักศึกษาระดับปริญญาเอก มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ดร.วีระพัฒน์ ปริยะวงค์ นิติศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard Law School, MA USA) อดีตที่ปรึกษารองนายกฯ สมัยยิ่งลักษณ์
หลังจากพลเอกประยุทธ จัทร์โอชา ประติวัติดร.วีระพัฒน์ ปริยะวงค์
ถูกเรียก รายงานตัวในการมีบทบาทเป็นที่ปนึกษานายก แต่เจ้าตัว
ต้องเดินทางออกนอกประเทศ และเพิ่งกลับมามีบทบาทในสีือสังคม
ออนไลน์ ที่กำลังถูกจับตามองจากสังคมอยู่ในขณะนี้
กำลังเป็นข่าวในกระแสสังคม ทางสื่อโชเชี่ยว ยูทูป และเฟจบุ๊คว่า
และทีวี ว่า คดีแตงโมที่ข่าวกำลังมาแรงในการื้อฟื้นคดีใหม่ นั้น
ดร.วีระพัฒน์ ปริยะวงค์ ได้ออกรายการโทรทัศน์ว่า ผู้จำลองเหตุการ
บนเรือ รวมทั้งสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าว มีความผิด
ฐานละเมิดอำนาจศาล
หลังจากนั้นทนายตุ๋ย ทนายความของ แซน วิศาพัช ก็ไปยื่นคำร้อง ขอให้ผู้ที่ไปจำลองเหตุการบนเรือ นั้น และสื่อมวลชน ประกอบด้วย อ. ปานเทพ –หมอธวัชชัย –ณวัฒน์ – อัจฉริยะ” นั้น ๆๆมีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล
ตามที่ดร.วีระพัฒน์ ปริยะวงค์ นิติศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard Law School, MA USA) ให้ข่าว
ศาลยกคำร้อง กรณีดังกล่าวนี้ต้องห้ามอุทธรณ์ฎีกาคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3249/2536
แต่ก็ยังไม่สิ้นหวังที่ทนายตุ๋ย จะยื่นคำร้องขอให้ศาลวางข้อกำหนด ไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนได้เสียหรือคู่ความในคดีให้ข่าวในระหว่างการพิจารณา อันเป็นการขัดขวางการพิจารณาของศาลได้ แต่ยังไม่ถึงขนาดที่จะเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล
เมื่อศาลวางข้อกำหนดแล้ว ผู้ไม่มีส่วนได้เสียหรือคู่ความในคดียัง
คงฝ่าฝืน นั่นแหละถึงจะมีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลได้
ที่ ดร.วีระพัฒน์ ปริยะวงค์ นิติศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard Law School, MA USA)ให้ข่าวนั่น เป็นกฏหมายคนละฉบับกันกับท่านที่เรียนเรียนมาจากต่างประเทศ
หลังจากนั้น ดร.วีระพัฒน์ ปริยะวงค์ นิติศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard Law School, MA USA) ตกเป็นข่าว
ดร.วิเชียร ชุปไธสงฆ์ นายกสภาทนายความ
ได้ตั้งดร.วีระพัฒน์ ปริยะวงค์ เป็นหัวหน้าทีมทำงานคดีเหยื่อคดีดิไอคอล “ลั่น” เป็นคุ้มครองผู้เสียหาย เตรียมจัดทีมทนายความเพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะแก่ประชาชน
ซึ่งเป็นงานรายได้ ตามบัญญัติ พรบ.ทนายความมาตรา 9(1) และเงินอุดหนุนจากภาครัฐและเอกชน ซึ่งเป็นองค์กรอิสระ เงินช่วยเหลือ
เงินค่าธรรมเนียม
เงินรางวัล เงินดำเนินคดีจากหน่วยงานของรัฐ องค์กรมหาชนและเอกชนเพื่อวัตถุประสงค์ในการคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ และ ดอกผลตาม(1)(2)
แต่ มีเงื่อนไข จาก ดร.วิเชียร ว่า สภาทนายความ ไม่ได้รับงบประมาณในลักษณะนี้จากภาครัฐ เป็นการเฉพาะจึงต้องจัดหาทุน มาใช้จ่ายเพื่อความช่วยเหลือ กรณีนี้เพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธาระต่อไป
ก็มีเสียงซุบซิบนินทาจากสมาชิกเพื่อนทนายความว่า เหยื่อเด็ก ดิ ไอคอน
เป็นหน้าที่ของนายกสภาทนายความที่จะให้ความช่วยเหลือหรือไม่ ?
เห็นว่าสภาทนายความมีหน่วยงานให้ความช่วยเหลือโดยตรงอยู่แล้ว
ประกอบด้วย นายสมพร ดำพริก อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย ที่จะเป็นผู้บริจารณาว่าจะให้ความช่วย
เหลือหรือไม
นายสมพร ดำพริก อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย ถูกกีดกันจากผู้มีอำนาจสภาทนายความ เห็นว่า ผู้เสียหายเหยื่อ ดิ ไอคอน
ไม่อยู่ในฐานะยากจน
จึงไม่ใช่หน้าที่ ของนายสุชาติ ขชกุล อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษ ในฐานะประธานอนุกรรมการฯ เป็นประธานที่ประชุม และคณะอนุกรรมการ เข้าร่วมประชุม
โดยมีการนำ ข้อบังคับ
ว่าด้วยคุ้มครองประโยชน์ สาธารณะ 2555 ฉบับนี้ มาใช้บังคับโดยข้อบังคับฉบับดังกล่าว ไม่ได้ระบุโดยชัดแจ้งว่าได้ใช้อำนาจตามกฏหมายใด ตาม พระราชบัญญัติทนายความ และรัฐมนตรียุติธรรม
ชึ่งเป็นนายกสภาพิเศษ เห็นชอบในหลักการหรือไม
ข้องบังคับดังกล่าว จึงไม่มีสภาพ สถานะเป็นกฎหมาย และไม่มี กฎหมายรองรับสถานะ
โดย ไม่มีฐานที่มาของ พรบ.ทนาย ไม่เหมือน ดังข้อบังคับ ว่าด้วยความช่วยเหลือประชาชน โดยมีประชาชนยากไร้เป็นวัตถุช่วยเหลือ
แต่ ผู้เสียหาย“เหยื่อดิไอคอน“ เป็นการช่วยคนมีฐานะ ที่สามารถจ้างทนายความได้จึงเป็นการทำขึ้นเพื่อประโยชน์ของพวกพ้อง โดยมิใช่เพื่อประโยชน์ของสมาชิกทนายความทั้งประเทศโดยแท้จริง
เมื่อข้อบังคับนี้ ไม่มีสภาพเป็นกฎหมาย ออกมาโดย ทึกทักเอาเองว่า
สภาทนายตราขึ้นได้
ออกมาโดยไม่มีฐานอำนาจ ในการออก
และไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ม.7(5)
การตั้งอนุกรรมการ ทำคดี ดิ ไอคอน อาศัยข้อบังคับนี้ จีงเป็นการร่วมกัน ทำผิด พรบ.ทนาย ความ ม.20
นายก และกรรมการ
ย่อมต้องถูก สภานายกพิเศษ (รมต.ยุติธรรม) ปลด
ข่าวว่า การรับคดี
ดิ ไอคอน นอกจากเป็นการทำผิดวัตถุประสงค์สภาทนาย ตาม มาตรา 7 (5) แล้ว การกระทำของฝ่ายบริหาร ยังอยู่ในข่ายร่วมกันทำละเมิด สร้างความเสียหาย ต่อวิชาชีพทนายความวงกว้าง
รายงานว่า ทนายความ กำลังดำเนินการที่จะฟ้องร้องให้หยุดบทบาท การ รับคดีเหยื่อ ดิ ไอคอน
ทั้งนี้ข้ออ้างในการแต่งตั้งคณะทำงาน โดยทนาย ความพรรคพวกที่มีเรื่อง เฉียดความมัวหมองของละเมิดอำนาจศาลนั้น
เป็นการ ตั้งโดยอ้างข้อบังคับที่ไม่มีสถานะทาง กฏหมายรองรับ
จึงเป็นการ จงใจละเมิด ทำให้สภาเสื่อมเสียชื่อเสียง เกียรติคุณแห่งวิชาชีพ โดยเป็นการไม่ผดุงไว้ซึ่งเกียรติศักดิ์
แห่งวิชาชีพทนายความ
ไปต่อยากแล้วละคับ
ดร.สุกิจ พูนศรีเกษม