ข่าวประจำวัน » ภูมิธรรม โต้ปิดด่าน !! ยันชายแดนปกติ ปัดพม่าตอบโต้ปมตัดไฟอย่าลือขู่ฟันคนสมคบคิด

ภูมิธรรม โต้ปิดด่าน !! ยันชายแดนปกติ ปัดพม่าตอบโต้ปมตัดไฟอย่าลือขู่ฟันคนสมคบคิด

7 February 2025
28   0

.

บิ๊กอ้วน โต้ข่าว “เมียนมา” ปิดด่านชายแดน ไม่จริง หากปิดเหมือนล็อกตัวเอง ยันก่อนตัดไฟ คุยกับทางการเมียนมาแล้ว เผยวางกรอบตัดไฟ 6 เดือน ก่อนตัดสินใจขยายต่อหรือไม่

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่บริษัท อาร์ วี คอนเน็กซ์ จำกัด จ.ปทุมธานี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวรัฐบาลเมียนมาโต้กลับรัฐบาลไทย ปิดด่านชายแดน บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 (ด่านพรมแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก) โดยปฏิเสธไม่ให้ผู้ที่ถือหนังสือเดินทาง หรือ พาสปอร์ต ข้ามแดนมายังประเทศไทยว่า ไม่น่าจะมีการตอบโต้ เพราะการดำเนินมาตรการนี้ ได้พูดคุยกับรัฐบาลเมียนมาก่อนแล้ว ซึ่งไม่ได้เป็นการพูดคุยแค่คืนวันนั้น แต่เคยพูดคุยกันมาก่อนแล้วที่จะต้องร่วมมือกัน และภายหลังมีมติจากที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานไปยังทางการเมียนมา เช่นเดียวกันกับฝ่ายทหารก็ได้มีการพูดคุยกับฝ่ายความมั่นคงของทางการเมียนมา

.

นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า การเข้าออกบริเวณด่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 (แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก) ยังเข้าออกได้ตามปกติ แต่ต้องมีการควบคุมสินค้าที่เป็นสิทธิต้องห้าม เช่นวันนี้ รถยนต์และรถจักรยานยนต์ยังสามารถเข้ามาเติมน้ำมันในประเทศไทยได้ ซึ่งเรายังอะลุ่มอล่วยเพื่อไม่ให้กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ ขณะที่โรงพยาบาลเมียวดี ก็ได้ประสานไปว่า หากมีผู้ป่วยฉุกเฉิน ที่ต้องการความช่วยเหลือ โรงพยาบาลแม่สอดก็พร้อมที่จะรับมาดูแลรักษา

.

เมื่อถามว่า ประชาชนยังสามารถข้ามด่านดังกล่าวไปมาได้ปกติหรือไม่ นายภูมิธรรมยืนยันว่ายังข้ามไปได้ไม่มีปัญหา แต่อยู่ภายใต้การตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้น

.

เมื่อถามว่า การออกมาตรการตัดไฟฟ้าได้พูดคุยกับรัฐบาลเมียนมาก่อน ซึ่งทางการเมียนมาติดใจอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรมระบุว่า ได้แจ้งให้ทราบ แต่ทั้งสองฝ่ายต้องเคารพอำนาจอธิปไตยซึ่งตอนนี้เรายังไม่ได้เข้าไปในประเทศเขา เพียงแต่เป็นการตัดไฟฟ้า และดูกฎหมายธุรกิจที่เป็นข้อห้ามแล้ว และได้แจ้งทางการเมียนมาแล้ว ซึ่งข้อสัญญาที่ตกลงกันก็ได้เขียนไว้แล้วว่า หากเป็นภัยความมั่นคง ก็สามารถงดจ่าย หรือตัดไฟฟ้าได้เลย

.

ส่วนมาตรการดังกล่าวจะยาวนานหรือไม่ นายภูมิธรรมระบุว่า ขึ้นอยู่กับผลสัมฤทธิ์จะเกิดขึ้น โดยเราต้องการกดดันให้มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเบื้องต้นวางกรอบเวลาไว้ประมาณ 6 เดือน และดูว่า ช่วงไตรมาสแรกจะเป็นอย่างไร ซึ่งยังต้องดูผลกระทบ และตัดสินใจ เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก เป็นเรื่องที่กระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ, เรื่องของมนุษยธรรม และความปลอดภัยของประชาชนด้วย ซึ่งการจะผ่อนคลายทุกอย่าง ก็ต้องตอบโจทย์เราด้วย

.

เมื่อถามว่ามาตรการนี้วางกรอบเวลาไว้ประมาณ 6 เดือน หรือ 1 ไตรมาส แต่ทางฝั่งเมียนมาก็มีความต้องการใช้ไฟฟ้านั้น นายภูมิธรรมระบุว่า อย่าไปเป็นห่วงเขามาก ซึ่งเป็นเรื่องที่เมียนมา ต้องไปกดดันให้เอาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ออกไป เพราะเป้าหมายของเราชัดเจน หากเขาอยากสบายขึ้น ก็ต้องรีบดำเนินการ

.

เมื่อถามอีกว่า หากเมียนมาแก้ไขปัญหานี้ด้วยการปิดด่านชายแดน จะกระทบเศรษฐกิจหรือไม่ นายภูมิธรรมถามกลับว่า การปิดด่านดังกล่าวไม่รู้ว่าจะกระทบใคร เพราะอาหารการกินทั้งหมดต้องผ่านจากฝั่งเราไป หากเขาปิดแสดงว่า เขาเตรียมตัวที่จะล็อกตัวเอง ให้อยู่กับความอดอยาก

เมื่อถามย้ำว่า การปิดด่านไม่น่าจะเกิดขึ้นใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมระบุว่า อาจจะเกิดขึ้นได้ ซึ่งตอบแทนเขาไม่ได้ แต่คิดว่าหากปิดจริง เขาจะลำบากกว่าเรา

.

ขณะที่เกณฑ์ในการวัดผลสัมฤทธิ์ของการพิจารณา ขยาย หรือไม่ขยายมาตรการ นายภูมิธรรมระบุว่า ต้องทำให้เห็นว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ต้องมีกระบวนการที่ลดลง และดูการข่าวว่า มีการเคลื่อนย้าย หรือเปลี่ยนแปลงไปแล้วหรือยัง หากยังอยู่ก็จะต้องดำเนินมาตรการต่อไป เพราะภารกิจนี้เป็นภารกิจของประเทศ และของโลก ดังนั้นต้องดำเนินการ และเหนือสิ่งอื่นใดคือคนในประเทศไทยเราต้องปลอดภัย

.

ส่วนได้ประเมินหรือไม่ว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีสายป่านยาวขนาดไหน นายภูมิธรรมระบุว่า ไม่ได้ประเมิน เดี๋ยวดูว่าจะทำได้หรือไม่ได้แค่ไหน ซึ่งขณะนี้มีการเกี่ยวพันกับเครือข่ายต่างๆ สายป่านจะยาวหรือไม่ ไม่รู้ พร้อมย้ำว่า เราสามารถแก้ไขปัญหาตามทัน ไม่ต้องห่วง หลายอย่างมาพูดทางสื่อไม่สามารถพูดได้