.
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวว่าสำนักข่าวบลูมเบิร์กของสหรัฐอเมริกาได้มีการวิเคราะห์เกี่ยวกับสถานการณ์สแกมเมอร์ว่าส่งผลกระทบในแง่ลบต่อประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง สืบเนื่องจากข่าวการลักพาตัวนายหวัง ซิง นักแสดงชาวจีน ไปยังเมียนมาผ่านช่องทางประเทศไทยและนายหวัง ซิง แม้จะได้รับการช่วยเหลือในภายหลัง อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้ทําให้ชาวจีนจำนวนมากยกเลิกทริปเดินทางมาไทยช่วงตรุษจีน
บลูมเบิร์กระบุว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่พึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นรายได้หลักได้ดำเนินการปราบปรามนักต้มตุ๋นและอาชญากรที่ใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้ามนุษย์เหนือโดยไม่รู้ตัว ส่งตัวไปทํางานในศูนย์หลอกลวงทางไซเบอร์ แต่จนถึงตอนนี้ก็การปราบปรามไม่สามารถบรรเทาความหวาดกลัว หรือว่าบรรเทาความกังวลของนักท่องเที่ยวได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
นายเอริค จูกล่าวว่าประเด็นเรื่องความกังวลด้านความปลอดภัยมีน้ำหนักมากพอจนทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนที่คิดทบทวนเกี่ยวกับการเดินทางไปประเทศไทย
“การจัดการกับข่าวร้ายนั้นเป็นสิ่งที่สูงกวjkขั้นตอนดำเนินการเพื่อเพิ่มความปลอดภัย หมายความว่าการซ่อมแซมชื่อเสียงที่เสียไปเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบาก” นายจูกล่าว
ในขณะเดียวกันการจองเที่ยวบินจากจีนไปญี่ปุ่นก็เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าในไตรมาสแรกจากปีก่อนหน้า เนื่องจากเงินเยนที่อ่อนค่าลงและค่าโดยสารเครื่องบินจากเซี่ยงไฮ้ไปโตเกียวต่ำเพียง 150 ดอลลาร์สหรัฐฯ (5,042 บาท) ซึ่งช่วยให้ญี่ปุ่นแซงหน้าประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางต่างประเทศอันดับต้น ๆ สําหรับนักท่องเที่ยวจีนในช่วงวันหยุดแปดวันในปี 2568 อีกทั้งการเข้าประเทศสิงคโปร์และมาเลเซียแบบไม่ต้องขอวีซ่ายังดึงดูดนักท่องเที่ยวเหล่านี้ออกจากประเทศไทย
บลูมเบิร์กระบุว่ามาตรการปราบปรามของประเทศไทยจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวจีนกลับมาได้หรือไม่ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ยังต้องรอดูกันต่อไป โดยประเทศไทย การท่องเที่ยวนั้นนำมาซึ่งรายได้คิดเป็นประมาณร้อยละ 12 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี และทำให้เกิดการจ้างงานคิดเป็นสัดส่วนหนึ่งในห้าของการจ้างงานทั้งหมด คาดว่าจะสร้างรายได้ประมาณ 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568
“ไม่น่าเป็นไปได้ที่ประเทศไทยจะสามารถบรรลุเป้าหมายสูงสุดสําหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน และประเทศไทยคงต้องดิ้นรนอย่างมากเพื่อให้มียอดนักท่องเที่ยวจีนแซงหน้า 8.8 ล้านคนตามที่ได้เคยตั้งเป้าขั้นต่ำเอาไว้ หากไม่จัดการกับข้อกังวลด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวชาวจีนอย่างรวดเร็วภายในสิ้นไตรมาสนี้” บลูมเบิร์กระบุและระบุต่อไปว่าหากปัญหายังคงดําเนินต่อไปตลอดปี 2568 ประเทศไทยอาจประสบปัญหาในการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีนมากกว่า 7.5 ล้านคน
อย่างไรก็ตามมีสัญญาณบางอย่างบอกว่าความกังวลเรื่องความปลอดภัยนี้กำลังลดลง แต่ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่ามีการพลิกผัน ในขณะที่การจองจากเที่ยวบินจากจีนไปไทยในเดือนมีนาคมยังคงลดลงประมาณ 10% เมื่อเทียบเป็นรายสัปดาห์ แต่ความต้องการเที่ยวบินในเดือนเมษายนและพฤษภาคมมีการเติบโตมากกว่า 3% ตามรายงานของ บริษัทการตลาด China Trading Desk
นายสุบรามาเนีย บัตต์ (Subramania Bhatt) ผู้บริหาร China Trading Desk กล่าวว่าแม้ความกลัวเกี่ยวกับการเดินทางไปประเทศไทยลดลง แต่ความต้องการของนักท่องเที่ยวจีนมายังประเทศไทยก็ยังคงห่างจากเมื่อตอนปี 2562 ในขณะที่มาเลเซียและสิงคโปร์มีการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่แข็งแกร่งมาก
