ข่าวประจำวัน » คุก3นิ้วบุกโรงพัก !! เอาสีสาด-ขวางจนท.-ปาของใส่ตร.9คน2ปี10วัน ไม่รอลงอาญา

คุก3นิ้วบุกโรงพัก !! เอาสีสาด-ขวางจนท.-ปาของใส่ตร.9คน2ปี10วัน ไม่รอลงอาญา

29 April 2025
156   0

  1. ใคร่สาด สาด #Saveหยก” แม้จำเลยจะอ้างว่าไม่ได้มีเจตนาจะมาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน เพียงต้องการสอบถามถึงกรณีของหยกเท่านั้น แต่การกระทำของจำเลยที่เมื่อ ผกก.สน.สำราญราษฎร์ ไม่ได้ลงมาพูดคุย จึงได้ทำการสาดสี เลือดหมู และพ่นสีสเปรย์ใส่ทั่วบริเวณ สน. สำราญราษฎร์ และยังสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เช่น เครื่องแบบตำรวจ และซองปืน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับความเสียหายรวม 59 คน คิดเป็นความเสียหายประมาณ 265,250 บาท สอดคล้องกับการโพสต์ชักชวนดังกล่าว ทำให้เห็นได้ว่าจำเลยทั้งเก้ามีเจตนากระทำการดังกล่าวจริง และโจทก์ยังมีพยานตำรวจในท้องที่ รวมไปถึงพยานหลักฐานอื่น ๆ ที่ชี้ว่าจำเลยทั้งเก้าได้กระทำการให้เกิดความเสียหายแก่ สน.สำราญราษฎร์ 
  2. ฐานบุกรุกสถานที่ในเวลากลางคืนโดยใช้กำลังประทุษร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 364 ประกอบมาตรา 365 (1)(2)(3) แม้จำเลยจะอ้างว่าการกระทำของจำเลยมีเจตนาเพื่อทวงถามในกรณีการดำเนินคดีเพิ่มเติมกับ ‘หยก’ เท่านั้น และยังเป็นการใช้สิทธิในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ ศาลเห็นว่า ในการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญต้องไม่ไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น จำเลยอ้างสิทธิตามรัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ส่วนตัวเพียงฝ่ายเดียวและเป็นการอ้างตามอำเภอใจ ข้ออ้างดังกล่าวจึงฟังไม่ขึ้น นอกจากนี้ การที่หนึ่งในจำเลยมีการขว้างปากระป๋องสีใส่เจ้าหน้าที่ ทำกระจกบานเลื่อนของ สน.สำราญราษฎร์ เสียหาย ก็เป็นการกระทำที่ใช้กำลังประทุษร้ายเจ้าที่ตำรวจอีกด้วย
  3. ฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 ที่จำเลยและพวกปฏิเสธที่จะพิมพ์ลายนิ้วมือในชั้นสอบสวน ศาลมีความเห็นว่า หลังจากจำเลยทั้งเก้าเป็นผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งสิทธิให้ตัวจำเลยได้ทราบแล้ว การพิมพ์ลายนิ้วมือเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสอบสวน การปฏิเสธที่จะไม่พิมพ์ลายนิ้วมือโดยขาดเหตุอันสมควร จึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ ศาลยังเห็นว่า แม้จำเลยจะกล่าวอ้างว่าเจ้าหน้าที่กระทำการอันไม่ชอบด้วยกฎหมายในชั้นสอบสวน แต่จำเลยก็ไม่ได้มีการนำสืบให้ศาลเห็นว่า เจ้าหน้าที่มีการกระทำอันไม่ชอบด้วยกฎหมายจริงตามที่จำเลยกล่าวอ้าง

พิพากษาว่า จำเลยทั้ง 9 คน มีความผิดฐานร่วมกันทำให้ทรัพย์ของผู้อื่นและทรัพย์ที่มีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์เสียหาย, ร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืนโดยใช้กำลังประทุษร้าย, ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน และฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน

เนื่องจากการกระทำความผิดของจำเลยทั้งเก้าเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเรียงกระทงความผิดไป ฐานร่วมกันทำให้ทรัพย์ของผู้อื่นและทรัพย์ที่มีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์เสียหาย, ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน และร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืนโดยใช้กำลังประทุษร้าย เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันบุกรุกตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ในเวลากลางคืน ตามมาตรา 364 จำคุกคนละ 2 ปี และฐานฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน ตามมาตรา 368 จำคุกคนละ 10 วัน รวมจำคุกคนละ 2 ปี 10 วัน ไม่รอลงอาญา

ภายหลังฟังคำพิพากษา นักกิจกรรมทั้ง 9 คนได้ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัว โดยไม่มีท่าทีขัดขืนใด ๆ ส่วนญาติและเพื่อน ๆ ได้เดินทางไปใต้ถุนศาลเพื่อซื้ออาหารให้กับจำเลยรับประทานในระหว่างรอฟังคำสั่งประกันตัว 

ต่อมา 16.17 น. หลังทนายยื่นประกันจำเลยทั้งหมดยกเว้น แบงค์ ณัฐพล ซึ่งอยู่ระหว่างถูกคุมขังในคดีอื่น และคดีมาตรา 112 ที่เขาถอนประกันตัวเอง ศาลอาญาอนุญาตให้ประกันตัวจำเลยทั้งแปด วางหลักทรัพย์คนละ 150,000 บาท โดยได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนราษฎรประสงค์ ทำให้ทั้งหมดได้รับการปล่อยตัวที่ศาลอาญา