เหตุ “ฆ่ายกครัว” 8 ศพ ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของนายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 บ้านเขางาม ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ถือเป็นเหตุสะเทือนขวัญที่ฝ่ายความมั่นคงยังเร่งแกะรอยหาผู้ก่อเหตุ บีบีซีไทย พาไป ย้อนดูคดีสะเทือนขวัญ ฆ่ายกครัว ที่เกิดขึ้นในรอบ 20 ปี
2540 ฆาตกรรม 5 ศพ ครอบครัวบุญทวี ที่สงขลา
BBC – คดีฆาตกรรมหมู่ยกครัวครอบครัวบุญทวีเกิดขึ้นเดือน เม.ย. 2540 ที่ อ.สิงหนคร จ.สงขลา ตำรวจได้รับแจ้งมีเหตุฆาตกรรมรวม 5 ศพ ด้วยเหตุจูงใจของคนลงมือก่อเหตุคือ เพื่อปล้นเงินจำนวน 1 ล้านบาท คดีนี้สร้างความสะเทือนใจแก่ผู้คนในเวลานั้น เพราะพฤติกรรมการฆ่าอันโหดเหี้ยมของผู้ก่อเหตุ สภาพศพครอบครัวบุญทวีทั้ง 5 คน ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพบในที่เกิดเหตุ นายประภาส และลูกชาย 3 คน ในวัย 9 ปี 11 ปี และ 13 ปี ศพถูกแขวนห้อยคออยู่กับบันไดบ้าน ขณะที่ภรรยานอนเสียชีวิตบนเตียงนอนในสภาพถูกมัดมือเท้า ศีรษะถูกทุบด้วยของแข็ง
ต่อมาในเดือน พ.ค. ตำรวจจับ นายเรืองศักดิ์ ทองกุล อายุ 22 ปี ฉายา “ศักดิ์ ปากรอ” โดยการลงมือครั้งนั้นมีผู้ร่วมก่อเหตุเป็นเพื่อนของนายศักดิ์ซึ่งช่วยดูต้นทางให้
ไทยรัฐออนไลน์ ย้อนปูมคดีนี้ไว้ว่า นายศักดิ์ ปากรอ ให้การกับตำรวจถึงสาเหตุที่ลงมือเพราะต้องการเงิน 1 ล้านบาท เนื่องจากไปรู้มาว่านายประภาสขายที่ดินมาได้ และเปิดปากให้การกับตำรวจว่า เริ่มลงมือทำร้ายผู้เป็นภรรยาของนายประภาสก่อน “เพื่อบังคับให้บอกที่ซ่อนเงิน จนเสียชีวิตเป็นคนแรกต่อหน้าลูกและสามี”
คดีสังหาร 5 ศพ ครอบครัวบุญทวี นายศักดิ์ ปากรอ ถูกศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ตัดสินประหารชีวิต แต่ในชั้นศาลฎีกา เห็นว่าจำเลยรับสารภาพ จึงลดโทษเหลือแค่จำคุกตลอดชีวิต ก่อนจะได้รับการลดโทษเรื่อยมาจนเหลือจำคุก 15 ปี สุดท้ายฉากชีวิตของฆาตกรที่โด่งดังเมื่อปี 2540 จบลงที่ลูกกระสุนปืนที่ถูกคนร้ายบุกยิงถึงหน้าบ้านที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ในเดือน ก.พ. ปี 2558
2552 ฆ่าล้างครัว “ปทุมวาสนา” 5 ชีวิต คาบ้านใหญ่กลางกรุง
11 เม.ย. 2552 ตำรวจ สน.ลาดพร้าว รับแจ้งเหตุฆ่าล้างครัวภายในคฤหาสน์หรูสไตล์ยุโรป เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ จากการตรวจสอบพบร่องรอยการรื้อค้นทรัพย์สินจำนวนมาก พบผู้เสียชีวิต 5 คน คือ นายธนยศ ปทุมวาสนา อายุ 52 ปี เจ้าของโรงงานเฟอร์นิเจอร์และนักธุรกิจที่ดิน เสียชีวิตอยู่ในห้องครัวชั้นล่าง ร่างกายมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดหน้าอกด้านซ้ายทะลุหัวใจ 1 นัด เจ้าหน้าที่ยังพบศพนางกนกกาญจน์ โพธิ์ทอง อายุ 48 ปี ภรรยานายธนยศ ลูกสาววัย 17 ปี ลูกชายวัย 15 ปี และรายสุดท้ายเป็นคนรับใช้ในบ้าน
ไม่นานตำรวจสามารถติดตามจับตัวผู้ต้องหาได้ 2 คน คือ นายวันชัย อ้นปันส์ อายุ 61 ปี และนายปริทรรศ นุ่มน้อย อายุ 55 ปี ทั้งคู่มีอาชีพขับแท็กซี่ โดยนายวันชัยเคยต้องคดีปล้นทรัพย์มาแล้ว ส่วนนายปริทรรศเคยต้องคดีฆ่าคนตาย และเพิ่งพ้นโทษออกมา ต่อมา ตำรวจ จับนายธรายุทธ แสนสุข อายุ 50 ปี, นายอำนาจ ภราดรพิทักษ์ อายุ 30 ปี ซึ่งทั้ง 2 คนให้การสอดคล้องกันเกือบทั้งหมด ว่าคดีนี้มีผู้บงการคือนายวันชัย เป็นตัวการหลักที่เชื่อมต่อไปยังบุคคลที่อยู่เบื้องหลัง หรือเป็นผู้รับงานมาอีกทอด
ต่อมา 29 พ.ค. 2555 ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.2347/2552 เห็นว่า การกระทำของจำเลยที่ 1- 4 เป็นความผิดฐานฆ่าโดยไตร่ ตรองไว้ก่อนและโดยทารุณโหดร้าย และปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายลงโทษประหารชีวิต ส่วนจำเลยที่ 2-4 (ปริทรรศ, ธรายุทธ และ อำนาจ) ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน มีประโยชน์ต่อการพิจารณา ให้ลดโทษจากประหารชีวิตเหลือจำคุกตลอดชีวิต
2557 ลูกชายคนเล็กจ้างฆ่า พ่อ แม่ พี่ชาย ครอบครัวหอมชง
3 เม.ย. 2557 ตำรวจพบผู้เสียชีวิต 3 คน ถูกบุกยิงถึงในบ้าน ได้แก่ นางวนิดา หอมชง ครูโรงเรียนราชวินิตประถมบางแค อายุ 57 ปี ร.ต.ท.ธรรมณัฐ หอมชง อายุ 27 ปี พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน และ พ.อ.วินัย หอมชง ข้าราชการบำนาญ กรมแพทย์ทหารบก วัย 63 ปี
ทีมสืบสวนที่ปิดคดีนี้ได้ภายในเวลา 5 วัน พบว่าผู้บงการฆ่าเป็นคนในครอบครัว คือ นายกิตินันท์ หอมชง ลูกชายคนเล็กของบ้าน เขามาปรากฏตัวในวันถัดมา ให้การกับตำรวจว่าไม่ทราบเหตุฆาตกรรมสลด พ่อ แม่ และพี่ชาย แต่การพบพิรุธของตำรวจและการสอบปากคำอย่างหนักทำให้นายกิตินันท์ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ ก่อนที่เขาจะยอมรับในวันที่ 3 หลังเกิดเหตุ ว่าเป็นผู้ว่าจ้างมือปืนมาสังหารคนในครอบครัว โดยสื่อมวลชนรายงานในเวลานั้นว่า เขาต้องการมรดก และอ้างว่ารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่พ่อแม่ลำเอียงรักลูกไม่เท่ากัน
นายกิตินันท์ ว่าจ้างทีมลงมือฆ่า 3 คน โดยมือปืนที่ก่อเหตุได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ สารภาพทุกข้อกล่าวหา พร้อมยอมรับว่า ไม่ทราบมาก่อนว่าผู้จ้างวานฆ่าให้ลงมือ เป็นลูกชายของครอบครัวเหยื่อ
เดือน มี.ค. 2558 ศาลอาญาธนบุรี มีคำพิพากษาประหารชีวิตนายกิตินันท์ ส่วนเพื่อนสนิทนายกิตินันท์ และทีมมือปืนที่มีคนขับรถแท็กซี่คอยรับส่งมือปืน มือปืนคอยระวังหลัง และมือปืนก่อเหตุ ศาลลงโทษจำคุกตลอดชีวิต
2560 เผาบ้านอำพรางศพพ่อ แม่ ลูก ที่ประจวบคีรีขันธ์
คดีเผาบ้านพักพ่อแม่ลูกเสียชีวิต 3 ศพ ครอบครัวผู้ดูแลนากุ้งที่ ต.ศาลาลัย อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา คนร้ายลงมือเผาบ้านได้รับความเสียหายทั้งหลัง รวมทั้งรถยนต์ พบผู้เสียชีวิต 3 คน ได้แก่ นายสำราญ เพชรประดับ อายุ 40 ปี เจ้าของบ้าน น.ส.รุ่งทิพย์ สายทอง อายุ 38 ปี และ ด.ญ.ประภัสสร เพชรประดับ ลูกสาววัยขวบครึ่ง
ตำรวจชุดสืบสวนสอบปากคำผู้ต้องสงสัยในพื้นที่ ก่อนจะปิดล้อมจับกุมนายนิพนธ์ ช้างแก้ว หรือ “ใหญ่” ผู้ต้องหา ซึ่งยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือยิงทั้ง 3 คน ก่อนจุดไฟเผาบ้านเพื่ออำพรางคดี โดยเจ้าหน้าที่มีหลักฐานสำคัญ คือ คราบเลือด หัวกระสุน และปลอกกระสุนปืน ขนาด 11 มม. และถังน้ำมันในที่เกิดเหตุ รวมทั้งผลชันสูตรทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ระบุว่าทั้ง 3 ศพ เสียชีวิตจากการถูกยิงที่ศรีษะ
สาเหตุที่ผู้ต้องหาลงมือ เนื่องจากโกรธแค้นที่นายสำราญแจ้งตำรวจมาจับตนในข้อหามียาบ้า 6 เม็ด และครอบครองอาวุธปืน
ทีมข่าว สำนักข่าว vihok news รายงาน