22 ก.ค. 60 – นายอนุสรณ์ อุณโณ คณบดีคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และแกนนำเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) วิเคราะห์ผลกระทบทางการเมืองหลังคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าวในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ว่า
ในแง่หนึ่งคดีโครงการรับจำนำข้าวเป็นเรื่องคดีการเมือง หากมีความผิดก็เป็นเรื่องนโยบายที่ไม่ควรเอามาเป็นคดีอาญา คดีนี้มีความไม่ชอบมาพากล มีกระบวนการมากมาย ซึ่งมีผลกับมวลชนแน่ๆดูจากวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีคนมาให้กำลังใจนางสาวยิ่งลักษณ์ค่อนข้างมาก สะท้อนว่าแรงสนับสนุนไม่เสื่อมถอย แม้จะข่มขู่ให้หวาดกลัวก็ไม่ได้ผล หากผลการตัดสินออกมาแล้วมวลชนเห็นว่าไม่เป็นธรรมน่าจะมีแรงกระเพื่อมพอสมควร จึงขอให้ฝ่ายผู้มีอำนาจได้นำเรื่องนี้พิจารณาด้วย
ไทยโพส – นายอนุสรณ์ กล่าวด้วยว่าการปรองดองต้องคืนทั้งความจริงและความยุติธรรมกับทั้งสองฝ่าย อย่างล่าสุดก็เห็นว่าฝ่ายหนึ่งดำเนินคดีฉับพลันรวดเร็วไม่หลุดรอด อย่างเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช.ติดคุก แต่แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหลุดรอด คล้ายตอกย้ำคนอีกฝ่ายที่เห็นการกระทำต่อแกนนำ และนักการเมืองของเขาไม่เป็นธรรมย้ำไปเรื่อย
“คดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ใช่การทุจริต เป็นเรื่องการดำเนินนโยบาย ที่เห็นว่าไม่พิสูจน์ถึงที่สุดว่าฉ้อโกงเสียหายขนาดไหน ไม่กระจ่างชัด เร่งรัดดำเนินการ ผมคิดว่าการใช้กระบวนการยุติธรรมขจัดฝ่ายตรงข้ามยิ่งทำให้เสื่อมเสียความศักดิ์สิทธิ์ แทนที่จะเป็นหลักยึดให้เกิดสันติภาพ กลับยิ่งสร้างความขัดแย้งไปอีก ดังนั้นวันที่ 25 สิงหาคมนี้ ต้องนำมาพิจารณาว่าดำเนินคดีไปอย่างยุติธรรมหรือไม่”นักวิชาการผู้นี้ระบุ
อ้างอิง http://www.thaipost.net/?q=node%2F32941