ซินแสเข่ง ชี้วิกฤติดวงชะตานักการเมืองเริ่มเข้าหายนะ ระวังฮาร์ดคอร์เตรียมลุย เตือน รบ.อย่าทำเป็นใจเย็น
2 ส.ค.60 นายชนม์ทรรศน์ ฤทัยผ่อง (ซินแสเข่ง) หมอดูเข็มทิศทองคำ และซินแสอันดับ 6ของประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2560 ได้มีการเปลี่ยนแปลงของดวงดาวโคจรทับเส้นขัดแย้งมากขึ้น โดยเฉพาะชะตากรรมนักการเมืองกำลังเข้าสู่ยุคความหายนะ ซึ่งดาวเคลื่อนเหตุปะทะจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1,10,13, 22 และวันที่ 25 สิงหาคม ขอเตือนให้ระวังทั้งปัญหาเหตุภัยต่างๆจากผู้ร้ายก่อเหตุ หรือจากคนไทยที่ใช้ความคิดตนเองเป็นใหญ่ หรือจากความขัดแย้งและจากเหตุการณ์ภัยพิบัติ ,อุบัติภัย ,วาตภัยและเหตุเพลิงไหม้ ที่องค์กรหน่วยภาครัฐต้องเตรียมพร้อมรับมือ ซึ่งเคยเตือนตั้งแต่ต้นปีมาแล้ว
มติชน – นายชนม์ทรรศน์ กล่าวว่า ปัญหาจะมาจากผู้ร้ายที่จะก่อคดีปล้นฆ่า ,ชิงทรัพย์ ,ทำร้ายร่างกายและกลุ่มฮาร์ดคอร์เตรียมพร้อมลุยรัฐบาลก่อเหตุใหญ่ล้มประเทศ ควบกับเหตุการณ์ภัยพิบัติข้างต้น เพราะเมื่อดวงดาวแห่งความหายนะ โคจรเข้าสู่ความแตกแยกวุ่นวายสับสนในประเทศอีก ทั้งการเมืองกำลังเข้าสู่ยุคของการเปลี่ยนแปลงในการตัดสินคดีความ ที่จะฝ่ายรัฐบาลจะต้องเตรียมพร้อมรับมืออย่าทำเป็นใจเย็น และทั้งภัยธรรมชาติที่ต้องเยียวยา รวมทั้งภัยการเมืองที่รุมเร้าก่อให้เกิดความแตกแยกเหมือนพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก
“ดวงเมืองประเทศอยู่ในมือของรัฐบาล ถ้าจำเป็นก็ต้องใช้กฎเหล็กหรือกฏหมายที่เข้มแข็งถึงแม้นจะชงเดือนสิงหาคม รัฐบาลต้องทำให้ได้เพื่ออนาคตประเทศไทย นักการเมืองจะต้องอยู่ภายใต้กฏหมายจึงจะทำให้ประเทศชาติเดินหน้าและ หมดยุคคอร์รัปชั่น ซึ่งดวงประเทศเข้าสู่เดือนแห่งการปะทะที่จะสร้างความหายนะถ้าไม่อยากให้มีเรื่องก็ไม่ควรก่อเรื่อง ถ้าไม่อยากให้มีคนตายก็ไม่ควรก่อเหตุคนจะได้ไม่ตายไปตามดวง” นายชนม์ทรรศน์ กล่าว
นายชนม์ทรรศน์ กล่าวและว่า เพราะคำว่า ดวงแตกแยกให้ถือว่าปัญหาความขัดแย้งก่อให้เกิดความแตกแยกสับสนไม่ไว้วางใจ หรือพลัดพรากที่จะทำให้คนต้องจากพลัดพราก จากที่หนึ่งต้องไปอยู่อีกที่หนึ่งหรือทำให้เกิดเหตุต้องจากที่อยู่อาศัยเดิม หรือต้องอยู่ติดคุกติดตะราง หรือต้องมีเหตุสุดท้าย คือต้องมีการตายจากอาจจะเป็นเพราะเจ้าชะตาก็ได้
นายชนม์ทรรศน์ กล่าวอีกว่า ดวงนักการเมืองไทยเชื่อว่า สู้กฏหมายไม่ได้ปะทะให้ตายก็มีแต่ตายเปล่า เพราะกฏหมายนี้สำคัญกว่าที่จะทำให้ประเทศเดินหน้า เมื่อต้องทำให้จริงอย่าเลือกที่รักมักที่ชัง ฝากเตือนนักการเมืองหลีกได้ควรหลีก ตั้งหลักดีกว่าสู้ไปก็ยังไม่ดีเท่าที่ควรทั้งคดีค้าข้าว คดีนักการเมืองและคดีโกงกินที่ทำให้เกิดความเสียหายหลายหมื่นล้านบาท
“ซึ่งบทบาททางการเมืองของอดีตผู้นำประเทศถือว่าใกล้จบแล้ว รวมถึงเหล่าบรรดานักการเมืองที่ดวงตกที่ไม่ควรหาเรื่องใส่ตัวให้เดือดร้อน เพราะดวงไม่ติดปีนี้ก็ติดปีหน้า โอกาสรอดยากและคนที่ไม่เกี่ยวก็ไม่ควรเข้าไปหาเรื่องเพราะอาจโดนลูกหลงโดยไม่รู้ตัว ซึ่งนักการ เมืองที่เข้าเคราะห์เหมือนแหย่ขาข้างหนึ่งเข้าคุกมีหลายคน รวมทั้งเหล่าบรรดาฮาร์ดคอร์ทั้งหลาย ถ้าจะมาเชียร์ด้วยใจก็ไม่น่ามีปัญหา แต่ถ้ามาเชียร์ด้วยอิทธิพล ความหายนะกับดวงมรณะจะเข้าแทรกทันที ” นายชนม์ทรรศน์ กล่าว
สำนักข่าววิหคนิวส์