‘นพ.เหวง โตจิราการ’ ยิงคำถาม ‘ป.ป.ช.’ ยกคดีสลายพธม. ปี 51 ทวนความจำ ‘พฤษภา ปี 53’ ทำไมยกคำร้องคดียิงเสื้อแดงศพแรก จี้นำมาทบทวนใหม่
voce tv – นพ.เหวง โตจิราการ อดีตแกนนำนปช. กล่าวถึงกรณีแหล่งข่าวทีมทนายความรับมอบอำนาจจาก ป.ป.ช.ยื่นฟ้องคดีสลายม็อบพันธมิตรฯ เปิดเผยภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษายกฟ้อง ถึงการจะใช้สิทธิอุทธรณ์คดีตามรัฐธรรมนูญใหม่ ปี 2560 หรือไม่ว่า โดยคดีนี้ ป.ป.ช.ได้ยื่นฟ้อง 2 ประเด็น คือ การปฏิบัติหน้าที่มิชอบที่สั่งสลายการชุมนุมกระทั่งมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
ซึ่งมองว่ารัฐบาลก็ต้องควบคุมดูแลเมื่อมีเหตุบาดเจ็บ-เสียชีวิต และประเด็นละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบที่เมื่อช่วงเช้ารู้แล้วว่ามีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต ก็ไม่ยับยั้งด้วยวิธีการอื่นใดนอกเหนือการสลายชุมนุมด้วยการยิงแก๊สน้ำตา นี่เป็นความเห็นของทีมทนายปปช.ในกรณีของศาลฎีกาฯยกฟ้องอดีตนานกฯสมชาย และคณะ
นพ.เหวง กล่าวเพิ่มเติมว่าต้องตั้งคำถามกับป.ป.ช.ยุคปัจจุบันเมื่อนำมาเทียบเคียงกับกรณี “พฤษภา 53” ว่าในกรณีของเหตุการณ์วันที่ 10เมษายน2553 ผู้เสียชีวิตคนแรกเกิดที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการ คือนายเกรียงไกร คำน้อย ซึ่งศาลมีคำสั่งการตายแล้วว่า ตายจากกระสุนของฝ่ายทหาร ที่เข้ามาทำหน้าที่ตามคำสั่งของศอฉ.นั่นก็คือรัฐบาลชุดนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ
ซึ่งในเวลา ประมาณ15.00น. ของ วันดังกล่าว ไม่ปรากฏชายชุดดำ ไม่ปรากฏว่าฝ่ายชาวบ้านเสื้อแดงมีอาวุธมีการยิงต่อสู้กับทหารที่มาทำหน้าที่ตามคำสั่งของศอฉ.แต่ประการใด แต่ป.ป.ช.กลับยกคำร้อง และอีกวรรคหนึ่งของทีมทนายป.ป.ช.ที่กล่าวว่า เมื่อรู้แล้วว่ามีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตของไม่ยับยั้งด้วยวิธีการอื่นใดนอกเหนือการสลายการชุมนุมด้วยการยิงแก็สน้ำตา
ขณะเดียวกันในส่วนสมัยรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ใช้เพียงแก็สน้ำตาซี่งพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ชัดเจนแล้วว่าไม่ทำให้เสียชีวิต โดยมีRDXเพียง7กรัม แต่ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ แม้มีการตายเกิดที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการจากการใช้กระสุนสงครามของทหารยิงประชาชนมือเปล่าแล้ว ก็ยังมีคำสั่งให้ใช้กระสุนจริงและอาวุธสงครามกับประชาชนสองมือเปล่าต่อไปอีก ทั้งๆที่ข้อเท็จจริงจากการวิจัยของนักวิจัย ศปช. ยืนยันว่า หากมีชายชุดดำจริง ชายชุดดำปรากฏตัวหลังเวลา 20.30 น.ภายหลังจากเหตุการณ์ทหารใช้กระสุนจริงสังหารประชาชนไปจำนวนกว่า 20 ศพเรียบร้อยแล้ว แล้วทำไม่ ป.ป.ช.จึงสั่งยกคำร้อง
อย่างไรก็ตามหากอ้างว่าเป็นมติของป.ป.ช.ชุดเก่า ป.ป.ช.ชุดใหม่ก็ควรต้องหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาทบทวนใหม่ ไม่เช่นนั้น ความยุติธรรมของสังคมไทยก็จะเสียหาย และประชาชนที่เสียชีวิตจาก กระสุนสงครามของทหารที่ทำตามคำสั่งศอฉ.เมื่อปี53ก็จะตายฟรี และนี่ก็จะเป็นเหตุการณ์ที่ “ฆาตกรสังหารประชาชนสองมือเปล่ากลางถนนลอยนวล”อย่างชัดเจน จากการตรวจสอบของกรรมมาธิการฝ่ายความมั่นคงของสภาผู้แทนราษฎรในสมัยนั้นพบว่า มีการใช้กระสุนจริงไปกว่าสองแสนนัด มีการใช้กระสุนสไนเปอร์ไปกว่าสองพันนัด ป.ป.ช.ชุดปัจจุบันจะว่าอย่างไรครับ
สำนักข่าววิหคนิวส์