พบซากวาฬหัวทุยหนัก 3 ตัน ยาวกว่า 12 เมตร เนื้อเปื่อยยุ่ยส่งกลิ่นเหม็นคาวคละคลุ้ง คาดสาเหตุป่วย ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นริมชายหาดทะเลตรัง เพิ่งพบเป็นตัวแรก
7 ส.ค.60 นายวิวาห์ เก้าเอี้ยน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ตำบลหาดสำราญ อำเภอหาดสำราญ จังหวัด นำผู้สื่อข่าวไปดูซากปลาวาฬขนาดใหญ่ ถูกน้ำซัดมาเกยตื้น ที่บ้านแหลมลูกไม้ หมู่ที่ 12 ตำบลหาดสำราญ พบซากปลาวาฬขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 12-15 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5 เมตร น้ำหนักประมาณ 3 ตัน เนื้อเปื่อยยุ่ยส่งกลิ่นเหม็นคาวคละคลุ้ง ท่ามกลางชาวบ้านที่มามุงดูจำนวนมาก
ข่าวช่อง 8 – ผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า ชาวบ้านได้มาแจ้งว่า พบซากปลาวาฬขนาดใหญ่ โดนน้ำซัดมาเกยตื้นที่นี่ ในสภาพเน่าเปื่อย ไม่เหลือเค้าเดิม และมีโครงกระดูกโผล่ออกมา คาดเสียชีวิตมาแล้วหลายวัน ซึ่งอาจจะเสียชีวิตมาจากทะเลลึก ก่อนจะถูกคลื่นทะเล ซัดเข้ามาเกยตื้นบนชายฝั่ง
ส่วนสาเหตุการตาย และเพศ ยังไม่ทราบ โดยจะประสานไปทางเจ้าหน้าที่ฯหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้มาตรวจสอบก่อน ซึ่งพื้นที่อำเภอหาดสำราญ ไม่เคยมีวาฬขนาดใหญ่มาเกยตื้น ตัวนี้ ถือว่า เป็นตัวแรก
ด้านนายประจวบ โมฆรัตน์ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 7 เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้น ทราบว่า เป็นวาฬหัวทุยน้ำหนักราว 3,000 กิโลกรัม ความยาวประมาณ 12 เมตร ไม่สามารถระบุเพศได้ เนื่องจากเนื้อเปื่อยยุ่ย คาดว่า ตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์ และเพิ่งพบเป็นตัวแรกในบริเวณทะเลแถบนี้
สำหรับสาเหตุที่ลอยมาเกยตื้น น่าจะเกิดจากอาการป่วย ร่างกายอ่อนแอ และหลบมรสุมในช่วงนี้ จึงทำให้เกิดพลัดหลงเข้ามาเกยตื้นริมชายหาดดังกล่าว ก่อนนำซากชิ้นเนื้อและชิ้นส่วนกระดูก ส่งต่อไปยังศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลฯภูเก็ต ส่วนซากที่เหลือชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ ได้ช่วยกันขุดหลุมฝังกลบบริเวณชายหาดดังกล่าว.
Cr. ถนอมศักดิ์ // ตรัง
สำนักข่าววิหคนิวส์