ได้ทำการย้ำเตือนหลายครั้งว่าจะเกิดเหตุร้าย ก่อนการตัดสินคดีสำคัญ และสถานการณ์จะเริ่มรุนแรงขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2560 เป็นต้นมาโดยมีสาเหตุหลักคือผลประโยชน์ของกลุ่มขบวนการต่อต้านชาติ กลุ่มเดิม พวกเดิม ที่เสียผลประโยชน์ทางการเมือง ไม่ยอมรับการกระทำผิดที่ตนเองได้ก่อ
ก่อนตัดสินในบางคดีที่ตัดสินมาเหนือความคาดหมาย หลังจากเกิดเหตุระเบิดหลายครั้ง โดยเฉพาะในรพ.จุฬา จากที่สมควรถูกลงโทษกลับมาชนะคดี ทำให้เขาเหล่านั้นย่ามใจ ก่อเหตุขึ้นอีกครั้ง เพื่อหวังจะทำให้คดีสำคัญอีกหลายคดี อันเกี่ยวข้องกับการทุจริต สามารถเอาชนะได้อีก
สิ่งที่ผู้ทำลายชาติเหล่านี้ เอาชีวิตประชาชนเป็นเดิมพัน เพื่อต่อรองไม่ว่าคนเหล่านั้นจะ สี เหลือง ฟ้า แดง เขามิได้สน สนแต่เพียงผลประโยชน์ของตัวเองที่เสีย หรือได้ ก็เท่านั้น หลักนี้เรียกว่ากลยุทธ์การต่อรอง โดยใช้วินาศกรรมเป็นเครื่องมือ ที่ใช้กันมากในตะวันออกกลาง ของกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดน ISIS หรือรัฐอิสราม ที่ต้องการผลประโยชน์อำนาจทางการเมือง โดยมีฝรั่งให้การสนับสนุน
ก่อนหน้านี้ในวันที่ 12-13 สิงหาคม มีการพบระเบิดที่บริเวณกรุงเทพ และอ่างทอง ทั้งจริงและปลอม ในห่วงเวลาเดียวกันในปี 2559 เกิดเหตุระเบิดใหญ่ขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 สิงหาคม โดยเฉพาะที่ “หัวหิน” จนถึงวันนี้ไม่สามารถทำการจับกุมคนร้ายได้แม้แต่คนเดียว
แม้ในปีนี้นักการทหารจะทำการกวาดล้างได้อาวุธปืน ระเบิดจำนวนมาก โดยกำหนดห่วงเวลากวาดล้างเป็น 1-15 สิงหาคม 2560 เมื่อพ้นกำหนดการกวาดล้างเพียงวันเดียว ก็เกิดเหตุการปล้นรถและเกิดคาร์บอมขึ้น โดยคนร้ายมีเป้าหมายทำคาร์บอมทั้งหมด 4-6 จุด แต่ถูกสกัดได้ ทำสำเร็จ 2 จุด
สถานการณ์ในเชิงยุทธศาสตร์ทางการเมือง จากนี้ไปย่อมจะเกิดความรุนแรงขึ้น หากนักการทหารรุกไม่ตั้งรับ สถานการณ์ย่อมจะดีขึ้น แต่หากใจเย็นมองทุกอย่างตามสถานการณ์ ทั้งก่อนและหลังคดีสำคัญ ย่อมจะเกิดภัยร้ายขึ้น โดยเอาชีวิตประชาชนเป็นเดิมพันในการต่อรอง ที่มีกลุ่มนายทหารยศพลเอก และอดีตรัฐมนตรีเข้ามาเกี่ยวข้อง อันตรายจริงๆ
“พ่อสอนว่าให้ทำตนเป็นคนดี ต่อต้านกีดกันคนไม่ดีทุกเรื่อง ไม่ให้มายุ่งกับชาติบ้านเมือง ชาติไทยจะได้รุ่งเรือง ดั่งพ่อตั้งใจ”
เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา
17 สิงหาคม 2560