วันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ.2560 แนวหน้ารายงานว่านายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดเผยถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม หรือกฎหมาย 4 ชั่วโคตร ว่า ตามหลักการของกฎหมายนั้นระบุไว้ชัดเจนแล้ว
ทั้งเรื่องของประโยชน์ทับซ้อนที่รวมถึงนักการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวกับการถือหุ้นหรือการมีตำแหน่งในภาคเอกชน ซึ่งในร่างกฎหมายฉบับนี้ยังกำหนดเพิ่มว่า เจ้าหน้าที่รัฐกำกับหน่วยงานอะไรมาก็แล้วแต่ หลังจากพ้นตำแหน่งนั้นไปแล้ว 2 ปี จะไปรับตำแหน่งกรรมการ ที่ปรึกษาใดๆ ไม่ได้ รวมถึงการกระทำใดๆ ที่ทำให้ผู้อื่นล่วงรู้ความลับทางราชการ โดยใช้ข้อมูลนั้นเพื่อประโยชน์กับตัวเองไม่ได้
ส่วนข้อสังเกตที่ระบุว่า คณะกรรมาธิการที่จะพิจารณาร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวไม่ควรมีตำแหน่งอยู่ในภาคเอกชนเพื่อป้องกันข้อครหาว่าอาจจะมีประโยชน์ทับซ้อนในการพิจารณาร่างกฎหมายนั้น นายสุรชัย กล่าวว่า ตนเห็นด้วยและจะรับไว้พิจารณา
ทั้งนี้ ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวระบุให้การรับเงินตามประเพณีสามารถทำได้ ซึ่งอาจเป็นช่องทางให้มีการรับผลประโยชน์นั้น นายสุรชัย กล่าวว่า ในข้อกำหนดของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ระบุถึงจำนวนมูลค่าที่สามารถรับได้ แต่หากมีการให้ที่มีมูลค่ามาก ก็ต้องพิจารณาสืบสวนว่าระหว่างผู้ให้กับผู้รับนั้นมีความสัมพันธ์ในหน้าที่การงานต่อกันหรือไม่ และต้องตรวจสอบถึงเหตุผลของการให้ที่มีมูลค่ามากเกินความจำเป็นว่ามาจากสาเหตุใด
สำนักข่าววิหคนิวส์