ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » ​#อุ๋ย..!! จอม เพชรประดับ รู้สึกผิดหวังกับยิ่งลักษณ์

​#อุ๋ย..!! จอม เพชรประดับ รู้สึกผิดหวังกับยิ่งลักษณ์

26 August 2017
604   0

        
            นายจอม เพชรประดับ ได้ออกมาเปิดเผยที่เฟสบุ๊คส่วนตัวว่า รู้สึกผิดหวังกับการที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรไม่ปรากฎตัวที่ศาลเพื่อรับฟังคำพิพากษากรณีคดีรับจำนำข้าว โดยปัจจุบันนายจอม เพชรประดับอาศัยอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งล่าสุดวันที่ 10 กรกฎาคม 2017 รัฐบาลสหรัฐอเมริกา พึ่งได้มอบสถานะผู้ลี้ภัยให้นายจอม โดยได้เดินทางมาลี้ภัยที่สหรัฐอเมริกาเป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว โดยข้อความดังกล่าวมีดังนี้

SiamTownUS  – “ผมผิดหวังมากๆ ครับรู้สึกเหมือนตัวเองถูกหลอก”

ผมรู้สึกเช่นนี้จริง ๆ ถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึกเช่นนี้ …

คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากมั้งครับว่า เพราะเหตุใด “คุณยิ่งลักษณ์-พรรคเพื่อไทย”จึงเป็นเพียงความหวังเดียวของผม ที่หวังจะให้เป็นธงนำ เรียกร้องต่อสู้เพื่อความเป็นประชาธิปไตยและนำความถูกต้องเป็นธรรมสู่สังคมไทย

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผมรู้สึกเป็นเกียรติได้ร่วมรบ ร่วมต่อสู้กับพวกเขาในสนามรบที่เต็มไปด้วยความโหดร้ายและป่าเถื่อนนี้

แต่ถึง นาทีนี้…ขอสารภาพเลยครับว่า ผมอยู่กับอุดมคติ ติดกับหลักการของการต่อสู้มากเกินไป ผมไม่เคยคิดว่าเผด็จการแห่งตุลาการภิวัฒน์ไทย จะโหดร้าย อำมหิตได้ถึงขนาดนี้ 

คำตัดสิน คุณบุญทรง เตริยาภิรมย์ และพวก ที่รุนแรงพอๆ ไม่ต่างกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ทั้งที่เป็นกระบวนการยุติธรรมที่มีข้อกังขากันทั้งโลก

ทำให้เข้าใจการตัดสินใจของ คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นอย่างดีครับว่า ทำไมเธอถึงเลือกที่จะหนี ที่ผ่านมา เธอได้แบกรับภาวะความคาดหวังจากมวลชน ผู้รักประชาธิปไตยเป็นจำนวนมาก อีกทั้งต้องดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างแสนสาหัส เกินกว่าที่คนอย่างผมจะรับรู้และเข้าใจได้

ใช่ครับ ผมก็..หนี.. แต่เงื่อนไขการหนีของผม ไม่ได้อยู่บนความคาดหวังของใคร …

ก็ขอแสดงยินดีกับคุณยิ่งลักษณ์ ที่จะได้มีโอกาสสัมผัสกับอิสระภาพของการใช้ชีวิตอย่างคนปกติทั่วไป 

ขอขอบคุณกับการที่ได้อดทน อดกลั้น ต่อสู้อย่างหนักแน่นเด็ดเดี่ยว และยอมแบกรับภาระอันหนักอึ้งของพวกเรามาช่วงระยะเวลาหนึ่ง

และขอต้อนรับสมาชิกใหม่”ผู้ลี้ภัยการเมือง”ในต่างประเทศ

ต้องขอโทษ ขออภัย สำหรับมวลมิตรผู้รักประชาธิปไตย และคนเสื้อแดงทั้งหลายที่ได้โพสต์ข้อความทำร้าย ทำลายความรู้สึก… อย่างที่บอกแล้ว ผมรู้สึกเช่นนั้นจริง ๆ

ถามว่า นับจากนี้จะสู้กันต่อไปกันอย่างไร ยังมีความหวังที่จะสู้อยู่ต่อไปอีกหรือไม่

เหตุการณ์ครั้งนี้สอนให้ผมรู้ว่า อย่าสู้บนหลักการ หรืออยู่กับอุดมคติจนเกินไป โดยเฉพาะการต่อสู้กับเผด็จการอำมาตย์ที่อำมหิตและป่าเถื่อน

สู้ด้วยพลังกายและพลังใจ เท่าที่ตัวของเราเอง จะทำได้…. 

อย่าท้อแท้ และสิ้นหวังนะครับ.. เพราะทุกการต่อสู้ขึ้นอยู่กับความอดทนและความหวัง 

อย่างน้อยแต่ผมคิดว่าสำคัญคือ “หวังและคอยเติมพลังให้กับตัวเอง” ครับ
สำนักข่าววิหคนิวส์